Tag: เชียงใหม่

Hoshihana Village รีสอร์ทสวยในเชียงใหม่ การพักผ่อนและแบ่งปันอย่างแท้จริง

เวลาที่เราจะออกเดินทางท่องเที่ยวในแต่ละครั้งนั้น ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวจะต้องมีจุดประสงค์ของการเดินทางอยู่ในใจและจะดีมากแค่ไหน หากสถานที่ที่เราเลือกมาพักผ่อนนั้น ให้ความสุข ความอิ่มเอมใจแก่เรา และในการมาพักผ่อนทำให้เราได้แบ่งปันสิ่งดี ๆ ต่อผู้อื่นได้มากกว่าที่เราคิด นักท่องเที่ยวไทยน้อยคนที่จะรู้จักรีสอร์ทสวย ที่มีความเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติแห่งหนึ่ง ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่แค่ 20 นาที ตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่บ้านในพื้นที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ และมีชื่อว่า “Hoshihana Village”

จุดเริ่มต้นของ Hoshihana Village เรื่องราวความเป็นมา ที่เป็นได้มากกว่าที่พัก

Hoshihana Villlage มีเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจมาก รีสอร์ทแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งรายได้ เพื่อนำไปสนับสนุนให้กับ “Ban Rom Sai” หรือ “บ้านร่มไทร” ซึ่งเป็นสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ที่ต้องสูญเสียพ่อแม่จากโรคเอดส์ และเด็ก ๆ ที่ได้รับเชื้อ HIV จากแม่ใน จ. เชียงใหม่ ความเป็นมาคร่าว ๆ ของ “บ้านร่มไทร” เริ่มต้นก่อตั้งเมื่อปี 1999 โดยผู้ก่อตั้งที่เป็นชาวญี่ปุ่น ได้รับเด็ก ๆ กว่า 30 ชีวิตเข้ามาอยู่ในความดูแล ที่บ้านร่มไทร โดยให้การดูแลเด็ก ๆ ทุกคนเป็นอย่างดี และให้เด็กทุกคนรู้สึกว่าที่นี่เป็น “บ้าน” ของพวกเขา โดยสอนทักษะอาชีพที่เด็ก ๆ ทุกคนสามารถนำไปต่อยอดเพื่อหาเลี้ยงตนเองยามเมื่อพวกเค้าเติบโตขึ้น ควบคู่ไปกับการศึกษา รวมทั้งให้การดูแลรักษาเด็กที่ได้รับเชื้อ HIV เป็นอย่างดี

นอกจากนี้บ้านร่มไทรยังมีเด็ก ๆ ในความดูแลจากความจำเป็นหลายเหตุผล เช่น พ่อแม่เป็นผู้อพยพจากประเทศเพื่อนบ้าน หรือบางคนครอบครัวยากจนและไม่สามารถเลี้ยงดูพวกเค้าได้ ผู้ก่อตั้งบ้านร่มไทร จึงได้สร้าง Hoshihana village ขึ้นมา แรกเริ่มนั้นเป็นสถานที่รองรับแขกที่เป็นผู้ให้การสนับสนุนบ้านร่มไทร ต่อมาจึงค่อย ๆ ขยายพื้นที่และสร้างบ้านพักเพิ่มขึ้น ให้กลายเป็นรีสอร์ทสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาพักผ่อนในบรรยากาศที่เงียบสงบ จนมีรายได้นำไปสนับสนุนในการดูแลแด็ก ๆ บ้านร่มไทรเพิ่มขึ้นอีกทาง

Hoshihana Village Cottage Resort นิยามของคำว่าพักผ่อนและการแบ่งปันที่แท้จริง

Hoshihana Village คำว่า “Hoshi” ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า “ดวงดาว” และ “Hana” แปลว่า “ดอกไม้” ที่นี่มักจะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและเกาหลีซะส่วนใหญ่ และน้อยครั้งที่จะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยมาเข้าพัก บ้านพักแต่ละหลังมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป เช่น Suika Cottage, Ichikawa Cottage และ Clay Cottage เป็นต้น ซึ่งมีทั้งหมด 9 หลังเท่านั้น หากสนใจเข้าพักจะต้องติดต่อเข้าไปที่เว็บไซต์ของทางรีสอร์ทโดยตรง เราสามารถเลือก Cottage แต่ละหลังได้ด้วยตนเอง เพราะขนาดของที่พักแต่ละหลังมีขนาดและพื้นที่ใช้สอยต่างกันไป บางหลังมีห้องครัวอยู่ในตัว แต่บางหลังอาจจะต้องใช้พื้นที่ส่วนรวมร่วมกัน โดยมีพื้นที่ครัวและอุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็นครบทุกอย่างเตรียมไว้ให้แขกที่เข้าพักสามารถทำอาหารรับประทานเองได้ แต่จะต้องเตรียมวัตถุดิบมาเอง ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากตลาดชุมชน คุณสามารถออกไปหาซื้อวัตถุดิบมาปรุงอาหารเอง ก็จะได้บรรยากาศไปอีกแบบ หรือถ้าอยากมาพักผ่อนอย่างเดียว ไม่อยากทำอะไร ที่นี่มีอาหารเช้า และ เครื่องดื่ม ที่คุณสามารถสั่งมาทานได้จนถึงมื้อเย็น

ส่วนใครที่ชอบออกกำลังกาย ที่นี่มีสระว่ายน้ำที่เป็นสระน้ำเกลืออยู่บริเวณสวนของที่พัก หรือถ้าคุณอยากจะไปสำรวจบริเวณใกล้ ๆ รีสอร์ท ที่นี่มีจักรยานให้คุณออกไปปั่นชมบรรยากาศรอบ ๆ พื้นที่ดูวิถีชุมชนแถวนั้นได้ ถ้าอยากช้อปปิ้ง ที่นี่มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นงานทำมือ เช่น กระเป๋าผ้า งานทำมือต่าง ๆ และของใช้ เช่น สบู่ แชมพู ที่เป็นแบบออร์แกนิกทั้งหมด ส่วนใครที่ชอบการนวด ที่นี่มีบริการนวดทั้งแบบไทย นวดน้ำมัน หรือนวดสมุนไพร เป็นต้น มีบริการซาวน่า มีพื้นที่สำหรับเล่นโยคะ ส่วนการคิดค่าบริการต่าง ๆ สามารถติดต่อดูรายละเอียดจากรีสอร์ทโดยตรงได้เลย จะเห็นว่าที่นี่มีบริการและกิจกรรมหลากหลาย โดยที่คุณสามารถเลือกใช้เวลาในการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

ความน่ารักยังไม่หมด เพราะที่นี่จะมีน้องแมวหลาย ๆ ตัวคอยออกมาต้อนรับแขกที่มาพักเสมอ จนถึงกับต้องมีป้ายบอกแขกที่เข้ามาบริเวณรีสอร์ทว่าให้ “ขับรถช้า ๆ ระวังแมว” สำหรับทาสแมว รับรองว่าคุณจะต้องหลงรักบรรดาน้องแมวขี้อ้อนมากแน่ ๆ นอกจากบรรยากาศของที่นี่จะมีความสวยงาม เงียบสงบตามธรรมชาติแล้ว การบริการของที่นี่เน้นการให้ความเป็นส่วนตัวของแขกที่เข้าพักเป็นอย่างมาก จะไม่มีพนักงานบริการเข้ามาในบริเวณที่พักของคุณ จะมีเพียงโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กไว้สำหรับติดต่อพนักงานเมื่อจำเป็นเท่านั้น เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้ความเป็นส่วนตัวและมีความผ่อนคลายอย่างแท้จริง และที่สำคัญการที่คุณมาพักกับ Hoshihana Village คุณยังมีส่วนร่วมได้สนับสนุนเด็ก ๆ ของบ้านร่มไทรโดยตรงอีกด้วย

อย่างที่ได้เกริ่นไว้ข้างต้นว่านักท่องเที่ยวคนไทยน้อยคนนักจะรู้จักกับที่นี่ แม้ว่าหลายคนจะเคยมาเที่ยวเชียงใหม่หลายครั้งหลายครา แต่อาจจะยังไม่รู้จักที่นี่ ที่ยังรอให้นักท่องเที่ยวคนไทยมาพักผ่อนกับสถานที่สวยงามและได้ร่วมแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้กับเด็ก ๆ เชื่อว่าทุกคนที่ได้มาสัมผัสจะได้ประสบการณ์ที่ดี ได้ทั้งความสุขและความอิ่มเอมใจกลับไปแน่นอน

จูงมือคู่รักมาฮันนีมูน กับ 5 โรงแรมติดแม่น้ำปิง โรแมนติกจนอยากขอแต่งอีกรอบ

สำหรับคู่รักที่เพิ่งแต่งงานหรือคู่ฮันนีมูนใหม่ ๆ อยากจูงมือกันไปเที่ยวและมองหาที่พักสุดโรแมนติก วิวสวย ๆ บรรยากาศดี ๆ ที่เหมาะกับการสวีทสุด ๆ คุณจะพลาดเชียงใหม่ไม่ได้เลย เพราะเสน่ห์ของที่นี่ไม่ใช่แค่ภูเขาและสายหมอก แต่มีแม่น้ำสายหลักอย่างแม่น้ำปิง ที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ท่ามกลางสองฝั่งที่มีวิถีชีวิตชุมชนดั้งเดิม เชียงใหม่จึงมีที่พักสไตล์รีสอร์ทที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม ดึงดูดนักท่องเที่ยว ผุดขึ้นริมฝั่งแม่น้ำปิง คู่รักที่อยากมาฮันนีมูนที่เชียงใหม่ไม่ควรพลาดกับที่พักที่จะต้องทำให้คุณมีความสุขสุด ๆ และประทับใจจนอยากจะขอแฟนแต่งงานอีกรอบ

โรงแรมสวยอลังการ บรรยากาศโรแมนติก ติดริมแม่น้ำปิง คู่รักอยากฮันนีมูน ต้องมา

1.โรงแรม ปิงนครา บูทิคโฮเทลแอนด์สปา มีความสวยสไตล์โคโลเนียลที่เป็นตึกสีขาวโดดเด่นติดริมแม่น้ำปิง ด้วยคำนิยามของโรงแรมคือ การเดินทางย้อนกลับสู่ความงดงามแห่งอดีต ที่เก๋ไปกว่านั้น โรงแรมยังใช้รถเบนซ์รุ่นเก่าและคลาสสิคมาก ๆ ให้ฟีลลิ่งกับคู่รักที่มาพักได้บรรยากาศย้อนยุคจริง ๆ

ทำเลที่ตั้ง : 135/9 ถ.เจริญประเทศ ต.ช้างคลาน อ.เมือง เชียงใหม่

2.โรงแรม รติล้านนา ริเวอร์ไซด์ สปา รีสอร์ท ที่พักสวยอลังการ ติดแม่น้ำปิงที่มีความล้านนามาก ๆ แสดงเอกลักษณ์ความเป็นเชียงใหม่แทบทุกมุม คู่รักที่อยากมาฮันนีมูน กับบรรยากาศแบบเชียงใหม่แต๊ ๆ จะต้องชอบมาก โรงแรมมีห้องอาหารที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำปิง ให้ชมวิวกันชัด ๆ และช่วงเย็นยังมีดนตรีให้ฟังเคล้าคลอไปด้วย แถมตอนเช้า ๆ จะมีพระที่มาบิณฑบาตทางเรือ ผ่านทางโรงแรม ที่นี่จึงมีมุมสำหรับให้แขกมาร่วมตักบาตรได้ด้วย เป็นโมเมนต์ที่หาดูได้ยาก หากจะพาคู่รักของคุณมาตักบาตรริมแม่น้ำตอนเช้าด้วยกัน ก็เก๋ไม่ซ้ำใครเลยทีเดียว

ทำเลที่ตั้ง : 33 ถ.ช้างคลาน ต.ป่าแดด อ.เมือง เชียงใหม่

3.โฮเทล เดส อาร์ติสต์ ปิง ซิลลูเอต เชียงใหม่ โรงแรมชื่อเก๋ไก๋แห่งนี้มีที่มาไม่ธรรมดา ในอดีตย่านทำเลที่ตั้งของโรงแรมแห่งนี้เป็นโกดังเก่า เป็นแหล่งค้าขายสำคัญของเชียงใหม่ มีพ่อค้าทั้งไทยและจีน ติดต่อธุรกิจกันย่านนี้อย่างคึกคัก โรงแรมจึงออกแบบด้วยโทนสีขาว-ดำ ซึ่งเชื่อมโยงกับชื่อของโรงแรม “ปิง ซิลลูเอท” หรือ “Ping Silhouette” ในยามพระอาทิตย์ตกก็จะมีแสงและเงามืดทอดผ่านแม่น้ำปิงมายังตัวโรงแรม สถาปัตยกรรมแบบจีนประยุกต์ ก็สอดคล้องกับโกดังเก่าในอดีต แถมตัวอาคารก็สูงไล่เลี่ยกับบ้านเรือนและสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ยิ่งทำให้ดูกลมกลืนกับชุมชน คู่รักที่อยากสัมผัสกับที่พักติดวิวแม่น้ำปิงที่มีอดีตสวยงามเช่นนี้ รีบจูงมือกันมาพักผ่อนให้ไว

ทำเลที่ตั้ง : 181 ถ.เจริญราษฎร์ ต.ช้างม่อย อ.เมือง เชียงใหม่

4.ศาลา ล้านนา เชียงใหม่ จากเดิมที่ตั้งใจจะเป็นเพียงบ้านพักตากอากาศริมแม่น้ำ กลับกลายมาเป็นร้านอาหารริมน้ำและโรงแรมขนาดเล็ก สร้างอย่างกลมกลืนไปกับชุมชน บรรยากาศของภายในโรงแรมมีความสงบ สบาย รู้สึกผ่อนคลายทันทีที่มาถึง

ทำเลที่ตั้ง : 49 ถ.เจริญราษฎร์ ต.ช้างม่อย อ. เมือง เชียงใหม่

5.โรงแรม ลิตเติ้ล เชลเตอร์ โรงแรมน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน ที่พักดีไซน์เก๋ การันตีด้วยรางวัลด้าน Interior Design จากต่างประเทศ และในระดับนานาชาติจากการออกแบบแนวคิด Contemporary Lanna ดึงดูดคู่รักหรือนักท่องเที่ยว สายงานอาร์ตและชอบงานดีไซน์ให้มาเยือน แถมบรรยากาศที่ติดฝั่งน้ำปิง ยังมีต้นไม้ใหญ่เล็กคงไว้เช่นเดิม มีวิวทิวทัศน์ที่สวย บรรยากาศโรแมนติกที่ และมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร หากมีแฟนชอบถ่ายรูป มีมุมสวยให้คุณเลือกกดชัตเตอร์เยอะมาก อาหาร เครื่องดื่ม กาแฟที่นี่ยังอร่อย และแหวกแนวไม่ซ้ำใคร รับรองว่าได้ฟีลลิ่งกู๊ดจนแทบไม่อยากออกไปไหนเลยทีเดียว

ทำเลที่ตั้ง : 208/25 อ.เมือง เชียงใหม่

หัวใจของการฮันนีมูนอาจจะหมายถึงการได้อยู่กับคู่รัก แค่ใช้เวลาด้วยกันแบบมีคุณภาพ เรียบง่ายและมีความสุขที่สุด การใช้เวลาแค่ได้พักผ่อนในที่พักสวย ๆ ดื่มด่ำบรรยากาศดี ๆ ริมแม่น้ำ ทุกที่ที่เราคัดสรรมาให้อย่างดีแล้ว เชื่อว่าคู่รักทุกคู่ต้องประทับใจและอยากกลับมาเที่ยวเชียงใหม่กันบ่อย ๆ อีกแน่นอน

เที่ยวแบบชิล ๆ ที่เชียงดาว ไปกี่ครั้งก็ยังหลงรัก

ถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยวที่รักป่า รักเขา คุณจะต้องหลงรักเชียงดาวอย่างแน่นอน อำเภอเชียงดาวเป็นหนึ่งในอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อาจจะเป็นเพราะเสน่ห์ของธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่ามองไปทางไหนก็มองเห็นวิวภูเขาโอบล้อมเมือง เสน่ห์ของผู้คนที่มีอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส แลดูเป็นมิตรและอบอุ่นสำหรับคนต่างถิ่นที่ได้มาเยือน

เชียงดาว และมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติที่น่าหลงใหล

อำเภอเชียงดาวห่างจากตัวอำเภอเมืองเชียงใหม่ประมาณ 72 กิโลเมตร หากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งถือว่าใช้เวลาไม่นานมากนัก เราก็สามารถไปสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติและความสงบนอกตัวเมืองกันได้แล้ว ที่นี่มีภูเขาที่เสมือนเป็นจุดแลนด์มาร์ก สามารถมองเห็นได้เด่นชัดมาก คือ “ดอยหลวงเชียงดาว” ภูเขาสูงใหญ่ ตั้งเด่นเป็นสง่า ให้ผู้มาเยือนต่างตะลึงกับขนาดและความสวยงาม

ซึ่งคำว่า “ดอย” แปลว่า “ภูเขา” และ “หลวง” ในที่นี้แปลว่า “ใหญ่” นั่นเอง ถือเป็นมนต์เสน่ห์ที่น่าหลงใหลของดอยหลวงเชียงดาวที่สร้างความน่าประทับใจแก่นักท่องเที่ยวที่มาพบเห็นเสมอ หากใครที่อยากชื่นชมความงามของดอยหลวงเชียงดาวแบบสบาย ๆ ปัจจุบันมีที่พัก รีสอร์ท สวยงามหลายแห่ง รอต้อนรับนักท่องเที่ยวมาจับจอง พักผ่อนแบบสบาย ๆ เพื่อชื่นชมความงามของดอยหลวงเชียงดาวกันได้อย่างเต็มอิ่ม บางแห่งนอกจากมีที่พักแล้วยังมีบริการหมูกระทะ และปิ้งย่าง เป็นเซ็ต ให้นั่งทานที่ระเบียงพร้อมชมวิวดอยหลวงแบบฟิน ๆ กันอีกด้วย เรียกว่ามาแล้วได้ทั้งบรรยากาศ ทั้งอิ่มท้องจุก ๆ กันไปเลย แต่ก่อนที่จะไปฟินกับหมูกระทะ คนที่อยากผ่อนคลายด้วยการแช่น้ำร้อนแบบออนเซ็น จะต้องไม่พลาด เพราะที่เชียงดาวมี “บ่อน้ำร้อนบ้านยางปู่โต๊ะ” มีบริการบ่อน้ำร้อนให้แช่แบบฟรี และบ่อน้ำร้อนส่วนตัว ที่มีค่าบริการ คิดเป็นชั่วโมงละ 50 บาทเท่านั้น แต่ได้แช่น้ำร้อนในบ่อส่วนตัวท่ามกลางธรรมชาติกันแบบ ชิล ๆ คุ้มค่ากับการมาพักผ่อนหย่อนใจอย่างแท้จริง

หากมาเยือนเชียงดาวแล้ว สิ่งที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะต้องนึกถึงเสมอ นั่นคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่น วัด หรือโบราณสถานเก่าแก่ของที่นี่ เพื่อไปกราบขอพรให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองหรือครอบครัว วัดที่ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และมีประวัติยาวนานประจำอำเภอเชียงดาวและยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวในปัจจุบัน นั่นก็คือ “วัดถ้ำเชียงดาว”

วัดถ้ำเชียงดาว ตำนานความเชื่อ ความศรัทธา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์

วัดถ้ำเชียงดาว เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของถ้ำเชียงดาว ในอดีตเคยเป็นสถานที่สำหรับปฏิบัติธรรมของพระธุดงค์และฤาษี ต่อมามีการสร้างโบราณสถาน เช่น เจดีย์ และพระพุทธรูปทันใจ หรือ หลวงพ่อทันใจ ที่เชื่อว่าหากได้มาอธิษฐานขอพรหลวงพ่อทันใจแล้วมักจะได้รับความสมหวังดังใจปรารถนา รวมถึงตำนานเล่าขานถึงความศักดิ์สิทธิ์ในอดีต ทำให้วัดถ้ำเชียงดาวกลายเป็นสถานที่ที่ผู้คนศรัทธา และเคารพนับถือมากราบไหว้ขอพรเป็นจำนวนมาก จากนั้นจึงมีการบูรณะวัดถ้ำเชียงดาวเรื่อยมาจนมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในปัจจุบัน ในส่วนด้านในของถ้ำนั้นยังมีหินงอก หินย้อยที่เกิดตามธรรมชาติ เป็นรูปร่างต่าง ๆ อย่างสวยงาม และยังมีพระพุทธรูปอยู่ภายในถ้ำด้วย สายบุญไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

หากท่านใดยังไม่เคยมาเที่ยวอำเภอเชียงดาว หรือเคยมาแล้วและยังอยากมาย้ำความประทับใจกับธรรมชาติที่ยังคงมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลของเชียงดาว ขอแค่เตรียมตัวและวางแผนการเดินทางให้พร้อม แนะนำว่าควรมาพักอย่างน้อย 1 คืน เพื่อจะได้มีเวลาเที่ยวแบบ ชิล ๆ ไม่ต้องเร่งรีบมากนัก แล้วคุณอาจจะหลงรักเชียงดาวจนอยากจะกลับมาเที่ยวอีกครั้งแน่นอน