Tag: street art

“อิโปห์ (IPOH)” ศิลปะข้างถนนที่ต้องค้นหา

การเดินทางครั้งใหม่เกิดขึ้นได้เสมอเพียงลบคำว่า “ไม่มีเวลา” ออกไปจากพจนานุกรมส่วนตัว การได้เจอเพื่อนใหม่ การได้รับไมตรีจากคนแปลกหน้าเวลาหลงทางและขอความช่วยเหลือโดยการถามทางเป็นเรื่องที่น่าสนุกไม่น้อย อยู่ที่มุมมองของแต่ละคน เฉกเช่นงานศิลปะ บางคนมองว่าสวย บางคนมองต่างออกไป ทั้งศิลปะขึ้นห้าง หรือศิลปะขึ้นหิ้ง ไม่เว้นแม้แต่ศิลปะข้างถนนตามกำแพงบ้านเรือน ตามตัวตึกรามบ้านช่อง ซอกซอยที่กำลังเป็นที่นิยมกันไม่น้อยในหมู่ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยเรา

                “อิโปห์” เมืองเล็ก ๆ ของประเทศมาเลเซีย ขนาดเล็กแต่อบอุ่น ตั้งอยู่ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์เพียง 200 กิโลเมตร สามารถเดินทางด้วยรถไฟประมาณ 2 ชั่วโมง หรือเช่ารถขับก็ใช้เวลาไม่นาน ระหว่างทางอาจแวะเที่ยวเก็นติ้งไฮแลนด์ (Genting Highland) นอนพักท่ามกลางอากาศเย็นตื่นมาพร้อมกับสัมผัสสายหมอกในห้องนอน แล้วค่อยออกเดินทางต่อไปยังเมืองอิโปห์ก็ไม่ติดขัดอะไร หรือจะแวะออกนอกเส้นทางไปอีกหน่อยเพื่อแวะชิมชาที่ คาเมรอนไฮแลนด์ (Cameron Highland) ก็เป็นอีกเส้นทางการท่องเที่ยวหนึ่งที่น่าสนใจ

                “อิโปห์ (IPOH)” ศิลปะข้างถนนที่ต้องค้นหา ตามชื่อนั้นเป็นเรื่องจริงที่ตัวงานศิลปะตามถนนนั้นจะหลบซ่อนให้นักท่องเที่ยวต้องค้นหาจะด้วยการเดินหรือการขับรถไปตามจุดต่าง ๆ เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น บางคนหาตามเส้นทางใน google map ไม่เจอไม่ต้องกลัวเพียงยื่นรูปให้ชาวเมืองอิโปห์ดูเจ้าบ้านก็พร้อมใจจะให้คำตอบหรือไม่ก็พาเดินไปยังภาพเหล่านั้นได้ สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดนอกจากชมศิลปะตามตึกแล้วลองแวะชิมกาแฟที่เป็นสาขาต้นกำเนิดของกาแฟร้าน “Old Town White Coffee” กาแฟสัญชาติมาเลเซียอันโด่งดัง หอม หวาน และมัน อร่อยจนต้องกินทุกวันตลอดการเดินทาง

                หลังจากเดินค้นหาภาพวาดจนทั่วเมืองตามคำกล่าวที่ว่า “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” ตระเวนหาของกินในตัวเมืองอิโปห์ ข้าวมันไก่ชื่อดัง ที่ไม่ต้องกลัวสับสนเพราะมี 2 ร้านเปิดประชันความอร่อยกัน หากเดินไปอีกนิดสังเกตร้านที่มีคนต่อคิวกันแถวยาวคือร้านขายหมูแดง หมูกรอบ เป็ดย่าง ผัดผัก และอาหารในสไตล์จีน ร้านนี้อร่อยของจริง ตบท้ายตามสไตล์คาวหวาน เดินไปเรื่อย ๆ จะพบกับร้านน้ำเต้าหู้และเฉาก๊วยที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา ซึ่งร้านดังกล่าวหาไม่ยากดูจากปริมาณคนต่อคิวรอความอร่อยกันได้เลย

                ปิดท้ายเมืองอิโปห์ด้วยตลาดกลางคืน ที่จะพบทั้งของพื้นเมืองและของสากลทั่วไปที่เรียงรายกันมาขายจากพ่อค้าแม่ค้าท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นเจลแต่งผมท่านชายสไตล์วินเทจในราคาย่อมเยา ขนมเปี๊ยะสูตรเด็ด ชาดอกไม้ น้ำมะนาวผงสำเร็จรูป หรือของฝากพื้นเมืองก็มีให้เลือกสรรมากมาย เคล็ดลับเล็ก ๆ ถ้าหากมีโอกาสค้างคืนเมืองเก่านี้ให้เลือกห้องนอนในชั้นสูงหน่อยจะเห็นวิวเมืองในยามค่ำคืนผ่านตัวเมืองเก่าและวิวภูเขาสวยงามในยามเช้าที่ตื่นขึ้นมาต้องร้องว้าวอย่างแน่นอน

“สงขลา” เมืองแฝดพี่แฝดน้องของรัฐปีนัง

สงขลาเป็นจังหวัดที่อยู่ทางภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย จัดว่าเป็นจังหวัดที่มีความเจริญและความพร้อมในด้านต่าง ๆ เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย จังหวัดสงขลามีทั้งหมด 16 อำเภอ ซึ่งมีอำเภอที่มีชื่อเสียงอยู่ด้วยกันหลายอำเภอ เช่น อำเภอเมืองสงขลา อำเภอหาดใหญ่ อำเภอสะเดา เป็นต้น แต่ในบทความนี้จะนำเสนอการท่องเที่ยวในอำเภอเมืองสงขลาเพียงอย่างเดียว

อำเภอเมืองสงขลาฝาแฝดรัฐปีนัง

อำเภอเมืองสงขลา เป็นอำเภอหนึ่งที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสงขลาและทะเลอ่าวไทย ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอเมืองสงขลานั้นมีหลากหลายแนว ซึ่งมาดูกันดีกว่าว่ามีสถานที่ใดในอำเภอเมืองสงขลาที่น่าสนใจบ้าง

กำแพงเมืองสงขลา ก่อสร้างโดยการโปรดเกล้าฯจากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ทรงพระราชทานเงินภาษีให้เจ้าเมืองสงขลาในขณะนั้น คือ พระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเล้ง) ก่อสร้างกำแพงเมืองขึ้น โดยเริ่มสร้างในปี พ.ศ. 2379 และเสร็จสิ้นเมื่อปี พ.ศ. 2385 ใช้ระยะเวลารวมทั้งหมด 6 ปี การก่อสร้างกำแพงเมืองนั้นเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น คือ การปราบกบฏไทรบุรีครั้งสุดท้ายใน ปี พ.ศ. 2381 จึงทำให้ไพร่พลในขณะนั้นต้องรวมตัวไปช่วยรบเป็นการชั่วคราว

เขาตังกวน เป็นภูเขาที่มีพระธาตุเจดีย์หลวงเป็นพระธาตุคู่เมืองของสงขลา ซึ่งเป็นศิลปะสมัยทวาราวดีที่ได้รับอิทธิพลมาจากการเผยแผ่ศาสนาของเมืองนครศรีธรรมราชในอดีต แต่เนื่องจากขาดการบำรุงดูแลมาเป็นระยะเวลานาน จึงทำให้พระธาตุเจดีย์หลวงเสื่อมโทรมตามกาลเวลา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) จึงได้พระราชทานเงินหลวงเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2539 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่9) ได้ทรงพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุเพื่อบรรจุในองค์พระเจดีย์ ซึ่งหากท่านทั้งหลายมีโอกาสมาเที่ยวชมอำเภอเมืองสงขลาในช่วงเดือนตุลาคม ขอแนะนำให้ท่านทั้งหลายเข้าร่วมพิธีตักบาตรเทโวแบบฉบับดั้งเดิมของเมืองสงขลา เพราะพิธีตักบาตรเทโวนั้นมีเพียงปีละครั้งเท่านั้น ซึ่งไม่ควรพลาด แต่หากท่านทั้งหลายมาเที่ยวในเดือนอื่น ๆ ก็อย่าเพิ่งนึกเสียดายไป เพราะเขาตังกวนเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดที่ท่านสามารถพักผ่อนหย่อนใจไปกับการรับชมวิวรอบอำเภอเมืองสงขลา

ย่านเมืองเก่าเพื่อชมและถ่ายภาพกับศิลปะบนกำแพงหรือ street art เป็นจุดที่ได้รับความนิยมจากชาวไทยและชาวต่างชาติมากที่สุด โดยเฉพาะชาวจีน มาเลเซีย และญี่ปุ่น เพราะมีผังเมืองที่เป็นระเบียบ มีสถาปัตยกรรมบ้านที่มีรูปแบผสมผสานระหว่างจีนและตะวันตก เช่น ทรงบ้านสไตล์ชิโนโปรตุกีส ทรงบ้านสไตล์จีน เรียงรายอยู่ตามถนนย่านเมืองเก่าสงขลา ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งพื้นที่โดยรอบนั้นมีการดำเนินวิถีชีวิตที่ผสมผสานระหว่างชาวจีน ชาวพื้นถิ่น และชาวมุสลิมทั้งในด้านภาษาและอาหารการกิน หากมองโดยรวมแล้วจะพบว่าอำเภอเมืองสงขลานั้นดูมีความคล้ายคลึงกับรัฐปีนัง ทั้งในเรื่องภูมิศาสตร์ การจัดวางผังเมือง สถาปัตยกรรมและวัฒนธรรม ตรงนี้นี่เองที่ทำให้อำเภอเมืองสงขลาถูกขนานนามจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทยว่าเป็นเมืองแฝดพี่แฝดน้องของรัฐปีนัง           

                นอกจากที่กล่าวมาแล้วนั้นอำเภอเมืองสงขลายังมีสถานที่ท่องเที่ยวและแลนด์มาร์กต่าง ๆ ให้ท่านได้เยี่ยมชมและแวะถ่ายรูปร่วมอีกด้วย เช่น รูปปั้นหนูแมว หัว ตัวและหางพญานาค ประตูเมืองสงขลา เป็นต้น โดยเฉพาะรูปปั้นนางเงือกทอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองสงขลา มีตำนานเล่ากันว่า “หากใครอยากมีแฟนเป็นคนสงขลา ให้จับนมนางเงือก ” จะจริงแท้หรือไม่ ขอเชิญชวนให้ท่านทั้งหลายไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง