Category: เที่ยวในประเทศ

ชัยนาทเมืองท่องเที่ยวที่ไม่ได้มีดีแค่สวนนก

หลวงปู่ศุขลือชา เขื่อนเจ้าพระยาเลื่องชื่อ นามระบือสวนนก ส้มโอดกขาวแตงกวา” คำขวัญประจำจังหวัดชัยนาท และเป็นบทสรุปของการท่องเที่ยวจังหวัดได้อย่างครบถ้วน การเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดชัยนาทในปัจจุบันแสนสะดวกหากมาจากกรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าสู่ภาคเหนือสามารถเดินทางถนนสายเอเชีย หรือหากท่องเที่ยวเช้าที่จังหวัดสุพรรณบุรีและเที่ยวบ่ายที่ชัยนาทเส้นทางก็สะดวกสบายและขับรถฟังเพลงได้เรื่อย ๆ ไม่เกิน  2 ชั่วโมงก็ถึงที่หมายได้สบาย ๆ

วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นวัดหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากอยู่ห่างจากตัวเมืองชัยนาทประมาณ 25 กิโลเมตร วัดนี้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายจนกลายเป็นหนึ่งในคำขวัญของจังหวัดได้ เพราะมีเกจิอาจารย์ชื่อดังเคยเป็นเจ้าอาวาสที่รู้จักกันในนาม “หลวงปู่ศุข” ซึ่งท่านเป็นพระอาจารย์ของเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (เสด็จเตี่ย) นอกจากวัดนี้เป็นวัดเก่าแก่แล้วพระเครื่องหลวงปู่ศุขยังมีชื่อเสียงและราคาสูงในวงการพระเครื่องของประเทศไทยด้วย ดังนั้นหากจะท่องเที่ยวขอพรเอาฤกษ์เอาชัยแล้วเมื่อไปถึงจังหวัดชัยนาทควรแวะไหว้พระขอพรจากองค์หลวงปู่ศุขเพื่อความเป็นสิริมงคล

เขื่อนเจ้าพระยา ตั้งอยู่ในอำเภอสรรพยา นอกจากจะเป็นเขื่อนเก็บน้ำขนาดใหญ่ ยังสามารถใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ด้วย ถ้าได้มาท่องเที่ยวช่วงเดือนมกราคมจะพบกับฝูงนกเป็ดน้ำนับหมื่นตัวให้ได้ชมกัน ส่วนช่วงเวลาปกติหากมากลางวันอากาศจะร้อนควรมาช่วงเย็นและเดินเล่นริมเขื่อนชมพระอาทิตย์ตกดินสูดบรรยากาศดี ๆ ไม่มีฝุ่นรบกวนเพื่อฟอกปอดก็นับว่าดีทีเดียว หลังจากนั้นรับประทานอาหารปลาสด ๆ ด้วยฝีมือชาวบ้านแบบตำรับกับข้าวภาคกลางอิ่มท้องก่อนกลับ หรือจะย้อนไปเดินเล่นในตลาดเก่าสรรพยา เพื่อชมวิถีชีวิตของชุมชนโบราณแห่งนี้เพื่อย้อนวัยวันวานสำราญใจก็สามารถทำได้ในเวลาไม่นาน

สวนนกชัยนาท แหล่งเรียนรู้นกที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีกรงนกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียซึ่งเป็นกรงนกแบบเปิดให้นกได้อาศัยอยู่ร่วมกับธรรมชาติ นอกจากแหล่งเรียนรู้เรื่องนกทั้งนกของไทยและนกนานาชาติแล้ว สวนนกชัยนาทยังมีอุโมงค์แก้วเพื่อศึกษาพันธุ์ปลาลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยากว่า  90 ชนิด รวมถึงพิพิธภัณฑ์ไข่นกที่เป็นศูนย์การเรียนรู้วงจรชีวิตของนก อีกด้วย เรียกได้ว่าหากอยากศึกษาเรื่องนก สวนนกชัยนาทตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

ส้มโอขาวแตงกวา เป็นผลไม้เฉพาะถิ่นและผลไม้เศรษฐกิจของจังหวัดชัยนาท สิ่งที่พิเศษของส้มโอขาวแตงกวาได้แก่รสชาติหวานฉ่ำนำ เปรี้ยวตามละมุน อร่อยเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด เหมาะควรอย่างยิ่งแก่การซื้อเป็นของฝากเด็กเล็ก เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย หรือญาติผู้ใหญ่

จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนั้นจังหวัดชัยนาทอาจจะไม่ใช่เพียงเมืองผ่านแต่เป็นเมืองรองที่ต้องแวะเพื่อทำกิจกรรมหลากหลาย ทั้งชมธรรมชาติจากสิ่งที่เป็นธรรมชาติสร้างขึ้นเช่นสวนนกชัยนาท หรือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อให้กลมกลืนกับธรรมชาติ เช่น เขื่อนเจ้าพระยาและหุ่นนกฟางขนาดใหญ่สัญลักษณ์ของเมือง รวมถึงการเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชัยนาท และแวะชิมผลไม้ขึ้นชื่อที่หาที่ใดไม่ได้นอกจากจังหวัดนี้เท่านั้น

ระนองถึงจะเป็นเมืองรองแต่ต้องไปเที่ยวสักครั้ง

ระนองถึงเป็นเมืองรองแต่ความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวไม่เคยเป็นรองใคร ด้วยเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นทะเลสวยงาม ทำให้ระนองเป็นหนึ่งในเส้นทางในฝันของนักท่องเที่ยวบางคนที่ต้องมาสัมผัสความงามนี้ให้ได้ เช่นที่เกาะพยาม ที่ได้รับคำชื่นชมว่าเป็นมัลดีฟส์ของเมืองไทยก็คงไม่ผิดนัก ภาพของรีสอร์ทสวย ๆ น้ำใส ๆ ตัดกับฟ้าสีฟ้าคราม ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนหลงลืมไปว่าอยู่มัลดีฟส์จริง ๆ

นอกจากจะมีเวลาว่างนั่งชมความสวยงามของน้ำทะเลแล้ว ตอนกลางของเกาะพยามยังสามารถเดินชมป่า ชมธรรมชาติรวมถึงฝูงลิง นกต่าง ๆ และถ้าหากโชคดีอาจได้เห็นนกเงือกสวย ๆ บินผ่านไปผ่านมาอวดโฉมให้ได้ชื่นชมกัน หากมีเวลาว่างอยากให้ลองศึกษาวิถีชีวิตของชาวมอแกนที่ประกอบอาชีพประมง และที่น่าสนใจคือในปัจจุบันผู้ชายชาวมอแกนยังคงลงดำน้ำเพื่อจับกุ้งมังกรด้วยมือเปล่าตามวิถีแบบดั้งเดิม นับได้ว่าเป็นภูมิปัญญาแบบดั้งเดิมที่น่าสนใจมากต่อการได้เรียนรู้ของนักท่องเที่ยว ขากลับอย่าลืมแวะเที่ยวชมโบสถ์กลางทะเลของวัดเกาะพยาม เพื่อไหว้องค์พระยืนปางลีลาหันหน้าออกทะเลเพื่อให้เดินทางกลับอย่างปลอดภัยด้วย

ภายหลังจากเที่ยวทะเลแล้วระนองก็มีน้ำตกหงาว ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาวซึ่งน้ำตกหงาวยืนเด่นตะหง่านรอรับนักท่องเที่ยวให้เห็นสายน้ำสีขาวไหลลงจากหน้าผาสูง ยิ่งถ้าในฤดูฝนจะเห็นสายน้ำไหลมากขึ้นทำให้ธารน้ำตกสวยงามมากขึ้นเมื่อเห็นมาจากที่ไกล ๆ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้าไปใกล้ตัวน้ำตกมากก็สามารถชื่นชมความงามของน้ำตกได้ ในช่วงฤดูแล้งสามารถเดินพิชิตยอดเขาขึ้นไปภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว จะพบกับทิวทัศน์สวยงามทั้งภูเขาหญ้าและท้องทะเลไกลของประเทศเมียนมาได้อีกด้วย

กองทัพต้องเดินด้วยท้องเป็นคำที่ใช้เวลาที่เริ่มรู้สึกหิว ตลาดเย็นหรือจะเรียกว่าสตรีทฟู้ดของเมืองระนองเป็นอีกสถานที่แห่งหนึ่งที่สมควรแวะฝากท้องอย่างยิ่ง ที่สำคัญราคาของอาหารที่นี่ถูกอย่างน่าเหลือเชื่อ เช่นขนมจีนน้ำยาปูเนื้อแน่นน้ำยาในแบบฉบับปักษ์ใต้ในราคาเพียง 25 บาท  นอกจากนี้ผู้ที่ชื่นชอบอาหารทะเลต้องถูกใจอย่างแน่นอน เพราะมีอาหารทะเลสด ๆ ย่างกันในราคามิตรภาพ ในส่วนของขนมก็มีทั้งขนมหวานทั่วไปของทั้งภาคกลางและภาคใต้ นอกจากนี้ผลไม้ระนองเช่นทุเรียน ก็รสชาติดีแถมราคาถูกอีกด้วย ผู้ชื่นชอบทุเรียนต้องถูกใจเป็นอย่างแน่แท้

สุดท้ายนี้เมืองระนองที่เป็นเมืองรองต้องห้ามพลาดนั้นได้ค่อย ๆ ขยับตัวอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักกันมากขึ้น การเดินทางก็สะดวกสบายเนื่องจากมีสายการบินให้บริการทุกวัน สำหรับการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคลก็สะดวกสบายไม่แพ้กันสามารถขับมาเรื่อย ๆ แวะพักค้างคืนที่เพชรบุรี หรือหัวหินสักคืนก่อนเดินทางมาถึงก็เป็นอีกทริป
หนึ่งที่น่าสนใจอย่างมาก

อุทัยธานีเมืองหุบเขาและสายน้ำ

หากจะกล่าวถึงจังหวัดเล็ก ๆ แสนอบอุ่น ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวครบทุกบรรยากาศ สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเช้าแล้วกลับพลบค่ำได้ จังหวัด “อุทัยธานี” เป็นหนึ่งในคำตอบของนักท่องเที่ยวแน่นอน เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้มีชื่อเสียงด้านวัฒนธรรมการตักบาตรเทโว หรือเรียกว่าการตักบาตรเทโวโรหณะ ซึ่งกระทำกันในวันออกพรรษาทุกปีและเป็นหนึ่งในประเพณียิ่งใหญ่ของพุทธศาสนิกชน ณ วัดสังกัสรัตนคีรี วัดเก่าแก่บนยอดเขาสะแกกรัง ซึ่งบนยอดเขาเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์พระพุทธรูปปางมารวิชัย อันเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของเมืองอุทัยธานี

ถัดจากยอดเขาสะแกกรังมุ่งลงสู่แม่น้ำสะแกกรัง จะเห็นบ้านเรือนแพริมน้ำทอดตัวยาวแสดงถึงวิถีชุมชนกับสายน้ำ หากสังเกตตัวบ้านเรือนแพจะเห็นหลังคา 2 ทรง คือ ทรงจั่วและทรงปั้นหยา อันเป็นเอกลักษณ์ของบ้านไทยในภาคกลาง บางครั้งจะเห็นบ้านเรือนแพทาสีม่วงโดดเด่นแปลกตา ซึ่งสีม่วงถือได้ว่าเป็นสีมงคลของชาวเมืองอุทัยฯ ปัจจุบันเราสามารถล่องเรือเพื่อชมบ้านเรือนแพได้โดยตลอดวัน เพื่อศึกษาวิถีชีวิตของชุมชน การทำประมง และที่สำคัญการได้ลองชิมปลาแม่น้ำของจังหวัดอุทัยธานี เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยว

สถานที่ยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดอุทัยธานีได้แก่ วัดจันทาราม หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกกันว่าวัดท่าซุงนั้นเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวต้องเดินทางมานมัสการหลวงพ่อฤาษีลิงดำ พระเถระที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะลูกแก้วสารพัดนึก หรือลูกแก้วมณีรัตนะอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ผู้ที่นิยมชมชอบของขลังต้องหาติดตัว เพื่อบูชาขอในสิ่งที่ตนปรารถนา แล้วต้องเดินทางมาเช่าบูชาที่วัดแห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีวิหารแก้ว 100 เมตรที่ประดับแก้วแวววาวภายในสวยงามอย่างยิ่ง รวมถึงปราสาททองคำ หรือปราสาททองกาญจนาภิเษกก็สวยงามควรค่าแก่การมาท่องเที่ยวสักครั้งหนึ่งในชีวิต

หลังจากไหว้พระ ล่องเรือ อุทัยธานียังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ย้อนยุคไปถึงยุคดึกดำบรรพ์ ได้แก่ “หุบป่าตาด” สถานที่ลึกลับซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา สิ่งที่ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ได้รับความนิยมเพราะหากเราเดินเข้าถ้ำในโพรงมืดจากปากถ้ำเข้าไปเรื่อย ๆ จะเห็นแสงสว่างรำไร และเมื่อเดินทะลุลอดเข้ามาจะพบกับห้องโถงพร้อมต้นไม้ใหญ่เขียวราวกับอยู่ในภาพยนตร์จูราสิคพาร์ค นอกจากนี้ยังมีพันธ์ไม้โบราณตั้งแต่ยุคอดีตที่ยังคงอยู่ให้ได้ชื่นชม และถ้าหากโชคดีอาจจะได้เห็นกิ้งกือมังกรสีชมพู สัตว์หายากที่มีเพียงในหุบป่าตาดแห่งเดียวในประเทศไทย

อุทัยธานีเมืองเล็กที่ในอดีตเป็นเพียงเมืองรอง หรือเมืองผ่าน แต่ในปัจจุบันได้เกิดสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ มากมายที่ยังคงความน่ารัก อบอุ่นของชาวเมือง หากมีเวลาเดินเล่นที่ตลาดเช้าเพื่อชมความงามของตึกอาคารบ้านเรือนที่ พร้อมใจกันทาสีม่วง ทักทายพ่อค้าแม่ค้า หรือหาอาหารเช้าแบบครัวภาคกลางรับประทาน ตกบ่ายลองทานของดีของเมืองอุทัยธานี ได้แก่ ขนมปังสังขยาที่แป้งนุ่มสังขยาแน่น กับกาแฟโบราณดี ๆ สักแก้ว และถ้าหากหาซื้อของฝากญาติผู้ใหญ่ ยาลม ยาหอมของเมืองนี้ก็เป็นที่นิยมนัก

สระบุรี อาหารอร่อยดี ที่ไม่ใช่แค่เมืองผ่าน

ปัจจุบันการท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ นอกจากชมความงดงามของสถานที่นั้น สัมผัสวัฒนธรรมที่แตกต่างออกไปจากเดิม การได้ลิ้มลองอาหารต่างถิ่นเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แยกกันไม่ออกจากการท่องเที่ยวเลย หากถามหาอาหารพื้นเมือง หรืออาหารที่ชาวบ้านชุมชนนั้นกินอยู่กันเป็นอย่างไร นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมุ่งหน้าเข้าไปตระเวนหาในตลาดสดหรือบริเวณโดยรอบตลาดนั้น ๆ เพื่อค้นหา ทดลองและบอกต่อ

                เมืองสระบุรีที่ไม่ได้มีดีที่กะหรี่ปั๊บเพียงอย่างเดียว ยังมีอาหารทั้งคาวหวานให้ได้ค้นหากัน สำหรับคนต่างถิ่น เมืองนี้อาจเป็นเพียงเมืองผ่านเพื่อมุ่งหน้าไปยังภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือไปยังลพบุรีและจังหวัดใกล้เคียง แต่เมื่อลองเข้ามาค้นหาก็ค้นพบอาหารหลากหลายในตลาดเก่าแห่งนี้ อาหารที่แนะนำให้คนต่างที่ต่างถิ่นมาทดลองชิมกัน ได้แก่ ข้าวมันไก่ยามเช้าร้านรสนิยม ข้าวหอม ไก่นุ่ม น้ำจิ้มรสดี และน้ำซุปกลิ่นบ๊วยจาง ๆ เอาชนะใจนักชิมได้ง่าย ต่อมา “ร้านแดงราดหน้า” มีไฮไลท์ที่เกี๊ยวกรอบราดหน้าที่ไส้ของเกี๊ยวเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของทางร้านที่ไม่เหมือนใคร ที่สามารถนำมาประยุกต์ได้ในทุกเมนูราดหน้าในการนำไปผสมกับเส้นต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว ของหวานในตลาดเมืองสระบุรีมีไอศครีมกะทิแบบโบราณให้เลือกทานในราคาแบบมิตรภาพ นอกจากนี้อย่าลืมลองหาบราวนี่ในตำนานของสระบุรีเพื่อปิดท้ายหรือซื้อเป็นของฝากด้วยยิ่งดี

                ห่างจากตัวเมืองสระบุรีเพียงเล็กน้อยไม่เกิน 10 นาทีจะเข้าสู่อำเภอเสาไห้ แวะไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่อำเภอได้แก่ เสาไม้ตะเคียนทอง ที่วัดสูง เพื่อไหว้ขอพรที่ศาลเจ้าแม่นางตะเคียน หลังจากนั้นแวะชมหอวัฒนธรรมไทยวน ศึกษาวิถีชีวิตชุมชน ภูมิปัญญาพื้นบ้านของชาวไทยวน เมื่อท่องเที่ยวชื่นชมวัฒนธรรมเรียบร้อยได้เวลาเสาะหาของรับประทานในตลาดเก่าของอำเภอเสาไห้ ที่ใครไม่มาทานถือว่ายังมาไม่ถึงเสาไห้ เริ่มจาก ร้านเกี๊ยวกรอบ 100 ปี หรือชื่อจริงของร้านคือ ร้าน ส.พาณิชย์ ที่ตัวแป้งของเกี๊ยวกรอบร้านนี้หาไม่ได้ที่ไหนในเมืองไทย และสูตรนี้ก็เป็นความลับที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น ตัวแป้งเกี๊ยวเรียกได้ว่า ละลายในปากได้เลย นอกจากนี้เกี๊ยวกรอบยังสามารถนำมารังสรรค์ใหม่เป็นเกี๊ยวกรอบผัดไทย ราดหน้า และราดด้วยผัดกะเพรา ก็น่าลิ้มลอง ในตลาดเก่ายังมีร้านขนมหวาน และหมูสะเต๊ะให้ได้ทดลองชิมและซื้อเป็นของฝากกันอีกด้วย

                โดยสรุปนับได้ว่าการเดินทางไปจังหวัดใกล้ ๆ กรุงเทพเพื่อท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเสาะหาอาหารอร่อยนั้นเป็นความสุขง่าย ๆ ในวันหยุด การเปิดมุมมองใหม่ ๆ กับสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ อาจทำให้ใครหลายคนได้ค้นพบประสบการณ์ใหม่ เช่นเดียวกับเมืองสระบุรี และอำเภอเสาไห้ ที่ยังคงมีเสน่ห์ให้ค้นหาและไม่เป็นเพียงเมืองผ่านที่แค่โบกมือทักทายกันแล้วจากไป 

“ท่าอิฐ” แหล่งรวมที่เที่ยว ไหว้พระ หาของกินใกล้กรุง

หากอยู่กรุงเทพฯ หรือปริมณฑลแต่ไม่อยากเดินทางไกล หรือฝ่าฟันการจราจรที่คับคั่งในวันหยุดพักผ่อนให้เสียอารมณ์ การเที่ยวในสถานที่ใกล้ ๆ ไม่ต้องขับรถ แต่ใช้บริการขนส่งสาธารณะที่สะดวกในการเดินทาง “ท่าอิฐ” ตำบลเล็ก ๆ ในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีที่หลายคนรู้จักกันดี และอาจจะเที่ยว ชิม ช้อป แชะ จนชินแล้ว ลองเปิดใจเดินทางมา
“ท่าอิฐ” สักครั้งในวันหยุดก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สามารถทำกิจกรรมหลากหลาย ได้ทั้งครอบครัว

                “ท่าอิฐ” จากปากทางจนถึงสุดซอยจะพบความเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งตัวตึกรามบ้านช่อง ร้านค้า อาคารพาณิชย์ ตลาดสด ตลาดนัด เรียงรายเข้าแถวจากต้นซอยจนถึงท้ายซอยติดแม่น้ำเจ้าพระยา ในวันธรรมดาหากใครเรียกรถแท็กซี่เพื่อเข้ามาส่งในซอยนี้ ถ้าหากเลี่ยงได้คนขับก็อยากออกปากปฏิเสธผู้โดยสาร ด้วยระยะหลังบริเวณนี้เป็นที่อยู่อาศัยที่ขยายจากความเป็นเมืองมาเรื่อย ๆ ทำให้หมู่บ้านจัดสรรเกิดขึ้นจำนวนมาก การสัญจรเดินทางเลยติดขัดไม่สะดวก

                หากไม่นับรวมปัญหาการจราจรติดขัด “ท่าอิฐ” มีของดีแอบซ่อนมากมาย เช่น เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมทั้งพุทธและอิสลาม ท่าอิฐมีวัดที่รองรับนักท่องเที่ยวชาวพุทธสายบุญอยู่หลายวัด เช่น 1) วัดบางบัวทอง ที่มีสถานที่ให้อาหารวัว ไถ่ชีวิตโค ลอดโบสถ์ 2) วัดแสงสิริธรรม มีองค์หลวงพ่อดำศักดิ์สิทธิ์ให้ได้สักการะบูชา และยังมีอาหารอร่อยในแพไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย 3) วัดท่าอิฐ เป็นที่สักการะบูชาหลวงพ่อขาว พระพุทธรูปโบราณกว่า 200 ปีซึ่งสร้างในสมัยอยุธยา และ 4) วัดเชิงเลน สักการะหลวงพ่อยิ้ม พระพุทธรูปปางยืนอุ้มบาตร นอกจากนี้สามารถชมความสวยงามของมัสยิดท่าอิฐ ของพี่น้องชาวไทยมุสลิม ทั้งทางบกและทางน้ำได้มุมมองการถ่ายรูปที่สวยงามไม่แพ้กัน

                อาหารในท่าอิฐนั้นที่พบมากและจะเห็นได้ตั้งแต่ปากซอยเข้าถนนจนถึงท้ายซอยคือ “ก๋วยเตี๋ยวเรือ” ซึ่งมีอยู่หลายร้านหลากสไตล์มาก ท่านใดชอบสูตรเผ็ดจัดจ้านก็มีให้เลือก ชอบกากหมูเจียว หรือผักสดเป็นเครื่องเคียงก็มีให้ทุกร้านแน่นอน ก๋วยเตี๋ยวเรือในซอยท่าอิฐมีให้เลือกสรรได้มากมายหลายร้านจริง ๆ ทั้งร้านที่เป็นเพิงข้างทาง ร้านในตึกแถว หรือร้านที่สามารถนั่งห้อยขาจากชานบ้านชมปลาเสือพ่นน้ำก็มี นอกจากนี้ต้นซอยยังมีร้านขายต้มเลือดหมู ก๋วยจั๊บ และหมูกรอบแสนอร่อย ให้ลองชิมหรือซื้อเป็นของฝากได้

                นอกจากนี้ตลาดนัดกลางซอยท่าอิฐเป็นสถานที่ที่คนในชุมชน หรือคนสัญจรผ่านไปมาจะได้พบกับของกินดี ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหลายเมนู อย่างเช่น ส้มตำเจ้าเก่า ที่มีทั้งตำปูม้า ตำกุ้งสด ตำผลไม้ เป็นต้น หรือจะซื้อไก่ย่างเจ้าดัง โรตีกรอบที่เป็นเอกลักษณ์แบบหวานกรอบนอกนุ่มในหอมนมข้นหวานที่ราดกำลังดี เป็นของฝากที่ผู้รับต้องถูกใจแน่นอน เห็นหรือไม่ว่าสถานที่ท่องเที่ยวไม่ไกลกรุงเทพแต่ครบทุกรสชาติมีอยู่จริง การเดินทางก็แสนสะดวกหากนั่งรถไฟฟ้าสายสีม่วงลงที่สถานีบางรักน้อยท่าอิฐขึ้นรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้ามาได้ไม่ไกลลองดู

“ชุมแสง” ตลาดเก่า 100 ปี อาหารดีน่าลิ้มลอง

หลายคนรู้จัก “ชุมแสง” อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดนครสวรรค์ ในฐานะฉากหนึ่งของละครดัง “กรงกรรม” ตลาดชุมแสงเป็นศูนย์รวมการค้าขายทางเรือในสมัยก่อนและขยับที่ทางตามการเปลี่ยนแปลงของการคมนาคม เมื่อการสัญจรทางน้ำไม่ได้รับความนิยม ความเจริญจึงหันเหไปทางรถไฟ และถนนตามลำดับ แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน “ชุมแสง” ได้บ่มเพาะชุมชนอันประกอบด้วย คนจีน คนไทย คนลาว เกิดการผสานวัฒนธรรมที่หลากหลาย

                นอกจากชุมแสงจะมีตลาดเก่า 100 ปี เป็นตัวชูโรงนำด้านการท่องเที่ยว วัดวาอารามที่สวยงาม วัฒนธรรมการทำน้ำตาลจากต้นตาลโตนด การโชว์การกระโดดโลดโพนผ่านต้นตาลต้นแล้วต้นเล่าเพื่อเก็บน้ำตาลสด ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชิมกันแบบฟรี ๆ ตำนานของจระเข้ “ด่างเกยไชย” ก็มีให้ชมในพิพิธภัณฑ์ของวัดเกยไชยเหนือ นอกจากนี้ทุกสิ้นปีเตรียมชมการแสดงในงานประเพณีแห่เจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง ที่เรียกได้ว่าเป็นงานมหกรรมของอำเภอ ทั้งการเชิดสิงโต มังกรทอง เหล่าบรรดาทหาร(เอ็งกอ) ดนตรีจีน(ล่อโก้ว) และการแสดงแบบไทย ๆ ของนักเรียนโรงเรียนต่าง ๆ ของเทศบาลเมืองชุมแสง ทำให้ผู้ชมประทับใจได้ไม่แพ้กับตัวจังหวัดนครสวรรค์เลย

                วัฒนธรรมอย่างง่ายที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้คือ “วัฒนธรรมอาหาร” อาหารของชาวชุมแสงเรียกได้ว่ามีความประณีตไม่เหมือนที่อื่น ก๋วยเตี๋ยวน้ำ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ เคี่ยวน้ำซุปถึงรสกระดูก เครื่องเคียงกระจุกกระจิกอย่างละชิ้นสองชิ้น เช่น ไส้หมู ตับหมู กระเพาะหมู หมูสับบะช่อ หมูแดง ลูกชิ้นปลาบัวลอย หมูกรอบสูตรเฉพาะตัว เกี๊ยวกรอบ ฯลฯ แล้วแต่พ่อค้าแม่ค้าจะรังสรรค์ขึ้นมาในชาม 1 ชาม ทำให้เห็นได้ถึงความประณีตใส่ใจในการทำอาหารให้ลูกค้า นอกจากก๋วยเตี๋ยวน้ำแล้ว ก๋วยเตี๋ยวแห้งที่นี่ก็อร่อยไม่แพ้กัน

                “ผัดไทย” อาหารที่นับได้ว่าทุกภูมิภาคในประเทศไทยมีกินทุกที่ แต่ละที่ความเป็นผัดไทยก็แตกต่างกันไป ทั้งเส้นจันทน์ เส้นเล็กธรรมดา ใส่กุ้ง ใส่มันกุ้ง ใส่เนื้อสัตว์ตามแต่ละร้านจะสร้างสรรค์ขึ้นมา หรือจะเปลี่ยนรูปแบบเป็น เกี๊ยวกรอบ หมี่กรอบ ผัดไทยไม่ใส่เส้น มาม่า ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน แต่ผัดไทยชุมแสง “แตกต่าง” ใครมาชุมแสงแล้วไม่ได้ลิ้มลองผัดไทยสูตรของชุมแสงนับได้ว่ามาไม่ถึง ความต่างของผัดไทยชุมแสงคือ การใช้น้ำตาลโตนดที่ดีเคี่ยวกับน้ำมะขามเปียก การแช่เส้นล่วงหน้า การเลือกใช้ถั่วคั่วที่หอม ไชโป๊ะสับใหม่ กุ้งแห้งตัวเล็กแดงสวยงาม กากหมูเจียว ผักโรยที่ใช้ผักชีฝรั่งโรยปิดท้ายทำให้หอม ผัดไทยชุมแสงแท้ไม่ใส่เต้าหู้ ใช้ไข่เป็ด และผัดไทยชุมแสงแท้ต้องใส่ถั่วฝักยาว หากซื้อทิ้งไว้ข้ามคืนนำมาอุ่นเส้นยังเหนียวนุ่มอร่อย

                “ราดหน้า” เส้นที่ผัดในกระทะกับเตาถ่านหอมไปทั่วซอย ก๋วยเตี๋ยวประเภทหนึ่งที่เป็นที่นิยมทั่วทุกภูมิภาคอีกเช่นกัน ราดหน้าชุมแสงจะเป็นราดหน้าแบบคนจีนโบราณ ที่เน้นน้ำข้นเหนียวใส ๆ ไม่ได้มีสิ่งใดเจือปนมากมาย แต่คงความหวานน้ำกระดูกหมูในซุปที่มาทำน้ำราด ราดหน้าที่นี่มีทุกเส้นและสามารถนำเส้นมาผัดกับไข่ หรือสามารถนำเส้นมาผัดรวมในน้ำราดหน้าได้คนในพื้นที่เรียกกันว่า “ผัดรวม” ก็อร่อยและแตกต่างไปอีกแบบ

                หากใครได้มีโอกาสขับรถแวะเที่ยวอำเภอเล็ก ๆ ซึ่งห่างจากบึงบอระเพ็ดเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง หรือนั่งรถไฟไปเที่ยวตามรอยละครดังอย่าลืมแวะกินก๋วยเตี๋ยวให้ครบตามข้างต้น ส่วนพิกัดร้านอร่อยข้างต้นอยู่ตรงไหนทางเทศบาลเมืองชุมแสงหรือคนในพื้นที่ให้ข้อมูลทุกท่านได้ไม่ต้องกลัวหลง และรับรองว่าไม่มีทางที่ท่านจะกินเพียงครั้งเดียวต้องเลี้ยวกลับมาเที่ยวมากินอีกครั้งอย่างแน่นอน

มีวันหยุดวันเดียว เลือกเที่ยวกรุงเทพฯ ก็ได้

ชีวิตการทำงานในเมืองหลวงของหลาย ๆ คนนั้น ไม่ใช่เรื่อง่ายเอาเสียเลย ทั้งเหนื่อยล้าจากการทำงานและเบื่อหน่ายกับสภาพความวุ่นวายของเมืองหลวง อยากจะออกไปพักผ่อนคลายเครียดบ้าง ก็ดันมีวันหยุดแค่วันเดียว แถมยังไม่รู้ว่าจะไปไหนดี แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะบทความนี้จะนำเสนอการเที่ยวในกรุงเทพฯ โดยใช้เวลาแค่เพียงวันเดียวให้เป็นทางเลือกของท่านผู้อ่านกัน เอาละ มาดูกันสิว่า ในเวลาหนึ่งวันท่านจะไปเที่ยวที่ไหนในกรุงเทพฯได้บ้าง

วัดพระแก้ว เริ่มต้นการท่องเที่ยวด้วยความมงคล โดยการมากราบไหว้พระแก้วมรกต ขอให้พบเจอแต่เรื่องราวดี ๆ ในชีวิต หรือจะขออะไรก็แล้วแต่ท่านผู้อ่านเลยนะ แต่การไปวัดพระแก้วนั้นก็ต้องแต่งตัวสุภาพ คือ ใส่กางเกงขายาว ใส่เสื้อสุภาพ ต้องไม่ใช่เสื้อแขนกุด สายเดี่ยว หรือเสื้อกล้าม ส่วนรองเท้านั้นต้องหุ้มส้น แต่ถ้าไม่ได้เตรียมตัวมาก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะทางวัดพระแก้วมีบริการให้เช่าและต้องวางเงินประกันชิ้นละ 100 บาท

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร เดินต่อจากวัดพระแก้วมาไม่ไกลนักก็ถึงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่รวบรวมศิลปะและวัตถุโบราณเอาไว้ที่นี่ เรียกได้ว่าเดินที่เดียว ได้ดูของโบราณครบทุกยุคสมัยเลยก็ว่าได้ เปิดทุกวันพุธ – วันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 16.00 น. อัตราค่าเข้าชม 30 บาทสำหรับคนไทย และ 200 บาทสำหรับชาวต่างชาติ ส่วนนักเรียน นักศึกษา ภิกษุสงฆ์ ภิกษุณี และผู้สูงอายุเข้าชมฟรี

เสาชิงช้า เดินจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติพระนครมาประมาณหนึ่งกิโลเมตรก็ถึงเสาชิงช้า บรรยากาศรอบ ๆ เสาชิงช้านั้น บอกเล่าถึงวิถีความเป็นเมืองกรุงในอดีตได้เป็นอย่างดี เมื่อมาถึงแล้วควรสักการะเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับตัวเอง หรือจะขอพรอะไรก็ตามแต่ผู้อ่านเลย

ตลาดวังหลัง นั่งเรือข้ามฟากจากท่าพระจันทร์ไปลงท่าเรือศิริราช จากนั้นเดินลัดเลาะมายังตลาดวังหลัง ตลาดที่นี่ค่อนข้างเล็ก แคบ มีสินค้าวางขายมากมายหลายรายการ ทั้งสินค้าทั้งมือหนึ่งและมือสอง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารชื่อดัง ให้ลิ้มลองความอร่อยอีกด้วย ตลาดวังหลังเปิดทุกวัน ตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงหกโมงเย็น

Icon Siam เมื่อช้อปปิ้งจากตลาดวังหลังเสร็จแล้ว หากยังพอมีเวลาเหลือ ขอแนะนำให้เดินย้อนกลับมาที่ท่าเรือศิริราช และนั่งเรือด่วนไปลงท่าเรือคลองสาน (สี่พระยา) เพื่อเยี่ยมชมห้างแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ นั่นคือ Icon Siam ห้างแห่งนี้มีดีไซน์ที่หรูหรา เหมาะกับการเซลฟี่ และนอกจากตึกสวย ๆ แล้ว ทางห้างยังมีสินค้าแบรนด์เนมต่าง ๆ ให้ได้เลือกสรรกันอีกด้วย

ปัจจุบันคนไทยเป็นโรคเครียดและซึมเศร้าเยอะมาก โดยเฉพาะคนเมืองกรุง อันเนื่องมาจากความกดดันในการทำงาน สภาพแออัดของสังคม ปัญหาเศรษฐกิจส่วนตัว การออกมาเที่ยวเพื่อพักผ่อน เปิดหูเปิดตาเพื่อเจอสิ่งใหม่ ๆ ถือเป็นการเพิ่มพลังให้กับชีวิต เพราะฉะนั้นจงเอาความเครียดปล่อยทิ้งไป และนำความสุขกลับมาแทน  

ครั้งหนึ่งของชีวิต ต้องลองไปขอพรที่นครศรีธรรมราช

ในสมัยสุโขทัยและอยุธยาอาณาจักรตามพรลิงค์หรือนครศรีธรรมราชในปัจจุบันนั้น เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์ เนื่องจากเมืองนครศรีธรรมราชในขณะนั้นได้ส่งสมณทูตไปศึกษาเล่าเรียนพระพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์ที่เมืองศรีลังกา เมื่อสมณทูตสำเร็จการศึกษาจึงกลับมายังอาณาจักรตามพรลิงค์และทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์ นอกจากพระพุทธศาสนาแล้วเมืองนครศรีธรรมราชยังเป็นเมืองแห่งวิชาอาคม ไสยศาสตร์และการเล่นแร่แปลธาตุอีกด้วย จึงทำให้เมืองนครศรีธรรมราชขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งมนต์ขลังนั่นเอง ตามมาดูกันว่าหากท่านทั้งหลายได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองนครศรีธรรมราชนั้น มีสถานที่ใดบ้างที่ท่านไม่ควรพลาดที่จะไปขอพร 

พระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นพระบรมธาตุเจดีย์ที่ชาวไทยพุทธและชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ ให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวมักจะมากราบไหว้บูชา เพื่อขอความเป็นสิริมงคลและเสริมบารมีให้กับชีวิตอย่างไม่ขาดสาย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ คือ การห่มผ้าพระธาตุ ซึ่งเป็นกิจกรรมมหากุศลที่ชาวนครศรีธรรมราช ชาวไทยพุทธและชาวต่างชาติ ไม่ควรพลาด ส่วนกิจกรรมจะจัดช่วงไหนของปีนั้นท่านทั้งหลายต้องศึกษากันเอาเอง เพราะการห่มผ้าพระธาตุในแต่ละปีนั้นจะมีวันเวลาที่แตกต่างกันไป

ไอ้ไข่วัดเจดีย์ เป็นกุมารทองที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในเรื่องของการบนบานศาลกล่าวเป็นอย่างมาก เล่าขานกันว่าไม่ว่าจะบนบานเรื่องใดหรือขอสิ่งใด ก็มักจะได้ตามที่ขอ โดยเมื่อสมหวังดั่งใจแล้ว ให้แก้บนด้วยการจุดประทัด ซื้อชุดทหารหรือรูปปั้นไก่มาถวายตามจำนวนที่บนบานเอาไว้ นอกจากนี้ทางวัดไอ้ไข่เจดีย์ยังมีเครื่องรางของขลังให้เช่าบูชา ซึ่งเงินที่ได้จากการบูชานั้น จะถูกนำไปพัฒนาวัดต่อไป ดังนั้นแล้วหากท่านทั้งหลายมีโอกาสได้ไปบนบานศาลกล่าวที่วัดไอ้ไข่เจดีย์ ขอให้ท่านเตรียมเรื่องที่จะบนบานไปให้ดี ๆ เพราะท่านอาจมีเวลาในการบนบานไม่มากนัก เนื่องจากนักท่องเที่ยวแน่นขนัดวัดทุกวัน

พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดพระธาตุน้อย เป็นอีกหนึ่งวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปขอพรเรื่องโชคลาภ เล่าขานกันว่ามีนักท่องเที่ยวหลายรายถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลใหญ่ หลังจากไปกราบไหว้พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ณ วัดแห่งนี้

พ่อท่านเขียว วัดหรงบน เนื่องจากในอดีตท่านมีความสามารถในการรักษาผู้ป่วยด้วยคาถาพุทธคุณ จึงทำให้นักเรียนที่มีความตั้งใจอยากเป็นหมอ มาขอพรให้สอบติดคณะแพทยศาสตร์อยู่บ่อย ๆ และนอกจากนี้เครื่องรางของขลังของท่านยังเป็นที่นิยมในการเช่าบูชาเพื่อให้แคล้วคลาดปลอดภัย

                เรื่องการขอพรและการบนบานศาลกล่าวนั้น เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าจริงหรือไม่จริง แต่ถึงกระนั้นแล้วก็ไม่ควรงมงายเสียจนลืมชีวิตความเป็นจริง และนอกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ แล้ว เมืองนครศรีธรรมราชยังมีสถานที่อีกหลายแห่งให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมเยือนกัน  

“ยะลา” ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลาย ๆ คนคิด

หากพูดถึงยะลาเป็นที่แน่นอนว่าหลาย ๆ คนมักจะเกิดความหวาดกลัว เพราะยะลาเป็นหนึ่งในสามจังหวัดชายแดนใต้ที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง นอกจากคนในพื้นที่แล้ว ก็มีคนไม่มากนักที่รู้ว่ายะลาเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีความสวยงาม อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่สมบูรณ์อีกด้วย  

“ยะลา” อย่ากลัวที่จะไป!!!

                ยะลาเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทยและเป็นจังหวัดที่ไม่มีทางออกทะเล ยะลาเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีความหลากหลายในด้านศาสนาและวัฒนธรรม ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น ยะลาเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีศักยภาพในการพัฒนาความเป็นเมืองขนาดใหญ่ เนื่องจากมีการหลั่งไหลของสินค้าต่างชาติอย่างมาเลเซียและสิงคโปร์ และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนสินค้าและวัฒนธรรมระหว่างกัน แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น ทำให้ยะลากลายเป็นเมืองที่เงียบเหงา สร้างความหวาดกลัวให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ทำให้ความสวยงามและความเป็นเอกลักษณ์ของยะลาลดลงไปเลยแม้แต้น้อย

                ในปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกลับมาให้ความสนใจในการท่องเที่ยวในยะลาอีกครั้ง เสมือนเป็นการฟื้นคืนชีพชื่อเสียงให้กับยะลา การไปเที่ยวยะลานั้น ต้องขอบอกก่อนว่า “ท่านทั้งหลายจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม” เพราะยะลามีที่เที่ยวเยอะมาก จนท่านเองแทบจะเที่ยวไม่ครบภายในวันเดียว สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในยะลามีอะไรบ้างมาดูกันเลย

ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ถึงแม้ยะลาจะไม่มีทะเลของจริง แต่ยะลามีทะเลหมอกให้ดื่มด่ำบรรยากาศ ซึ่งทะเลหมอกอัยเยอร์เวงเป็นทะเลหมอกที่มีความสวยงามไม่แพ้ทะเลหมอกทางภาคเหนือของเมืองไทยเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งทะเลหมอกอัยเยอร์เวงยังถูกจัดอันดับให้เป็นทะเลหมอกที่สวยที่สุดในลำดับต้น ๆ ของเมืองไทยอีกด้วย สถานที่นี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดหรือคนที่ชอบดูพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก หรือถ้าหากอยากจะนอนกางเต็นท์ก็มีที่ทางให้เป็นสัดส่วน  

เขื่อนบางลาง แต่เดิมนั้นเขื่อนบางลางถูกจัดสร้างขึ้น เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเท่านั้น แต่ด้วยความสวยงามของพื้นที่โดยรอบที่มีทั้งภูเขา ป่าต้นน้ำ และป่าน้อยใหญ่ ล้อมรอบ ทำให้สถานที่นี้ได้รับความนิยมจากนักถ่ายภาพทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ หลายครั้งหลายคราสถานที่นี้ถูกใช้ถ่ายถ่าย Pre-wedding ให้กับคู่บ่าวสาว กิจกรรมที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง คือ พายเรือเล่นในเขื่อน

สวนดอกไม้เมืองหนาวเบตง สถานที่นี่สวยงามมากเหมือนกับหลุดออกมาจากนิยาย มีดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ สวนดอกไม้เมืองหนาวแห่งนี้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีค่าเข้าชมคนละ 20 บาท สวนแห่งนี้มีที่พักรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับคนที่ชอบดอกไม้และชอบอากาศสบาย ๆ

การไปเที่ยวจังหวัดยะลานั้น ต้องศึกษาสถานการณ์ความไม่สงบในช่วงที่จะไปเที่ยวให้ถี่ถ้วน เพื่อความปลอดภัยของตนเอง และนอกจากนี้ควรศึกษาประเพณีและวัฒนธรรมของคนยะลาด้วย เพราะคนยะลานั้นมีวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างชาวพุทธ ชาวมุสลิม และชาวจีน ซึ่งบางอย่างคนยะลาอาจจะมีการดำเนินวิถีชีวิตที่แตกต่างจากนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน แต่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในการท่องเที่ยว คือ ผู้มาเยี่ยมเยือนจะต้องจะให้เกียรติสถานที่ท่องเที่ยวและคนพื้นถิ่น กลับกันเจ้าบ้านพื้นถิ่นก็ต้องต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยความเป็นมิตรไมตรีเช่นกัน

“สงขลา” เมืองแฝดพี่แฝดน้องของรัฐปีนัง

สงขลาเป็นจังหวัดที่อยู่ทางภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย จัดว่าเป็นจังหวัดที่มีความเจริญและความพร้อมในด้านต่าง ๆ เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย จังหวัดสงขลามีทั้งหมด 16 อำเภอ ซึ่งมีอำเภอที่มีชื่อเสียงอยู่ด้วยกันหลายอำเภอ เช่น อำเภอเมืองสงขลา อำเภอหาดใหญ่ อำเภอสะเดา เป็นต้น แต่ในบทความนี้จะนำเสนอการท่องเที่ยวในอำเภอเมืองสงขลาเพียงอย่างเดียว

อำเภอเมืองสงขลาฝาแฝดรัฐปีนัง

อำเภอเมืองสงขลา เป็นอำเภอหนึ่งที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสงขลาและทะเลอ่าวไทย ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอเมืองสงขลานั้นมีหลากหลายแนว ซึ่งมาดูกันดีกว่าว่ามีสถานที่ใดในอำเภอเมืองสงขลาที่น่าสนใจบ้าง

กำแพงเมืองสงขลา ก่อสร้างโดยการโปรดเกล้าฯจากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ทรงพระราชทานเงินภาษีให้เจ้าเมืองสงขลาในขณะนั้น คือ พระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเล้ง) ก่อสร้างกำแพงเมืองขึ้น โดยเริ่มสร้างในปี พ.ศ. 2379 และเสร็จสิ้นเมื่อปี พ.ศ. 2385 ใช้ระยะเวลารวมทั้งหมด 6 ปี การก่อสร้างกำแพงเมืองนั้นเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น คือ การปราบกบฏไทรบุรีครั้งสุดท้ายใน ปี พ.ศ. 2381 จึงทำให้ไพร่พลในขณะนั้นต้องรวมตัวไปช่วยรบเป็นการชั่วคราว

เขาตังกวน เป็นภูเขาที่มีพระธาตุเจดีย์หลวงเป็นพระธาตุคู่เมืองของสงขลา ซึ่งเป็นศิลปะสมัยทวาราวดีที่ได้รับอิทธิพลมาจากการเผยแผ่ศาสนาของเมืองนครศรีธรรมราชในอดีต แต่เนื่องจากขาดการบำรุงดูแลมาเป็นระยะเวลานาน จึงทำให้พระธาตุเจดีย์หลวงเสื่อมโทรมตามกาลเวลา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) จึงได้พระราชทานเงินหลวงเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2539 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่9) ได้ทรงพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุเพื่อบรรจุในองค์พระเจดีย์ ซึ่งหากท่านทั้งหลายมีโอกาสมาเที่ยวชมอำเภอเมืองสงขลาในช่วงเดือนตุลาคม ขอแนะนำให้ท่านทั้งหลายเข้าร่วมพิธีตักบาตรเทโวแบบฉบับดั้งเดิมของเมืองสงขลา เพราะพิธีตักบาตรเทโวนั้นมีเพียงปีละครั้งเท่านั้น ซึ่งไม่ควรพลาด แต่หากท่านทั้งหลายมาเที่ยวในเดือนอื่น ๆ ก็อย่าเพิ่งนึกเสียดายไป เพราะเขาตังกวนเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดที่ท่านสามารถพักผ่อนหย่อนใจไปกับการรับชมวิวรอบอำเภอเมืองสงขลา

ย่านเมืองเก่าเพื่อชมและถ่ายภาพกับศิลปะบนกำแพงหรือ street art เป็นจุดที่ได้รับความนิยมจากชาวไทยและชาวต่างชาติมากที่สุด โดยเฉพาะชาวจีน มาเลเซีย และญี่ปุ่น เพราะมีผังเมืองที่เป็นระเบียบ มีสถาปัตยกรรมบ้านที่มีรูปแบผสมผสานระหว่างจีนและตะวันตก เช่น ทรงบ้านสไตล์ชิโนโปรตุกีส ทรงบ้านสไตล์จีน เรียงรายอยู่ตามถนนย่านเมืองเก่าสงขลา ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งพื้นที่โดยรอบนั้นมีการดำเนินวิถีชีวิตที่ผสมผสานระหว่างชาวจีน ชาวพื้นถิ่น และชาวมุสลิมทั้งในด้านภาษาและอาหารการกิน หากมองโดยรวมแล้วจะพบว่าอำเภอเมืองสงขลานั้นดูมีความคล้ายคลึงกับรัฐปีนัง ทั้งในเรื่องภูมิศาสตร์ การจัดวางผังเมือง สถาปัตยกรรมและวัฒนธรรม ตรงนี้นี่เองที่ทำให้อำเภอเมืองสงขลาถูกขนานนามจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทยว่าเป็นเมืองแฝดพี่แฝดน้องของรัฐปีนัง           

                นอกจากที่กล่าวมาแล้วนั้นอำเภอเมืองสงขลายังมีสถานที่ท่องเที่ยวและแลนด์มาร์กต่าง ๆ ให้ท่านได้เยี่ยมชมและแวะถ่ายรูปร่วมอีกด้วย เช่น รูปปั้นหนูแมว หัว ตัวและหางพญานาค ประตูเมืองสงขลา เป็นต้น โดยเฉพาะรูปปั้นนางเงือกทอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองสงขลา มีตำนานเล่ากันว่า “หากใครอยากมีแฟนเป็นคนสงขลา ให้จับนมนางเงือก ” จะจริงแท้หรือไม่ ขอเชิญชวนให้ท่านทั้งหลายไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง