Category: เที่ยวต่างประเทศ

กัวลาลัมเปอร์ เที่ยวเพลินเผลอหลงรัก

“กัวลาลัมเปอร์” เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย เมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมทำให้วัฒนธรรมต่าง ๆ นั้นพยายามแสดงออกมาเป็นเอกลักษณ์แต่ผสานกันอย่างลงตัว ทั้งอาหารการกิน สถาปัตยกรรม ที่เป็นทั้งแบบดั้งเดิมและแบบฟิวชั่น เกิดเป็นเสน่ห์ใหม่ที่น่าค้นหาและน่าท่องเที่ยว

                การเช่ารถขับในเมืองกัวลาลัมเปอร์สามารถทำได้หากเรามีใบขับขี่สากล เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ขับรถเองได้ง่าย หาที่จอดรถได้ตามจุดต่าง ๆ ที่สำคัญน้ำมันราคาถูกมาก ทำให้ประหยัดค่าเดินทางได้ดี หรือหากใครไม่สะดวกเช่ารถขับก็สามารถเดินทางโดยสารผ่านการขนส่งสาธารณะก็สะดวกที่จะไปยังจุดที่เป็นจุดสำคัญทางการท่องเที่ยวของกัวลาลัมเปอร์ ทั้งรถไฟฟ้าที่ครอบคลุมเส้นทาง รถแท็กซี่ หรือรถประจำทาง

                “ถ้ำบาตู” อยู่ห่างจากนอกเมืองมาอีกนิดสามารถนั่งรถไฟฟ้ามาถึงได้ ถ้ำนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของผู้นับถือศาสนาฮินดู ด้านหน้าถ้ำมีรูปปั้นพระขันธกุมารองค์ใหญ่โดดเด่นเป็นตระหง่าน และนักท่องเที่ยวสามารถออกกำลังกายเพื่อบริหารเส้นเลือดให้หัวใจสูบฉีดได้ด้วยการเดินขึ้นไปเข้าถ้ำด้วยขั้นบันได 272 ขั้น จะพบกับเหล่าองค์เทพต่าง ๆ ที่ชาวฮินดูนับถือ แต่สิ่งที่ต้องระวังคือบรรดาลิงทั้งหลายที่อาจจะเข้ามาทักทายหยิบจับสิ่งของของท่านไปเล่นได้

                “ปุตราจายา” เมืองใหม่ที่เป็นศูนย์กลางการบริหารประเทศที่มีทั้งความทันสมัยและความสวยงามของสถาปัตยกรรมของมัสยิดสีชมพูที่โดดเด่นเมื่อเดินผ่านเข้าไปตรงประตูจะต้องตะลึงกับความสวยงามแน่นอน นอกจากนี้ในเมืองนี้ยังมีกิจกรรมกลางแจ้งเช่นการปีนหน้าผาจำลอง ลานเล่นสเก็ตบอร์ด เส้นทางปั่นจักรยานเสือภูเขา หรือการพายเรือคายัค เรือแคนนู หรือเรือถีบ ได้ด้วย และหากใครชื่นชอบธรรมชาติสามารถเดินเล่นชมสวน Taman Botani สวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย เพื่อศึกษาพืชพันธุ์ต่าง ๆ จากทั่วโลกได้ด้วย ครบทุกกิจกรรมในสถานที่เดียว

                “ตึกเปโตรนัส” หรือคนไทยเรียกติดปากกันว่าตึกแฝด สามารถถ่ายรูปคู่กับตึกนี้ได้ทั้งในเวลากลางวัน และเวลากลางคืนก็สวยงามไม่แพ้กัน เราสามารถใช้เวลาบริเวณตึกนี้ได้ทั้งวันเริ่มจากการถ่ายรูปคู่กับตึกและเข้าไปจับจ่ายใช้สอยของภายในบริเวณห้าง รวมถึงรับประทานอาหารกลางวัน หลังจากนั้นสามารถซื้อตั๋วเพื่อขึ้นชมวิว 360 องศาของเมืองกัวลาลัมเปอร์ และลงมาชมแสงสีเสียงของน้ำพุบริเวณด้านล่าง หรือใครชอบทานอาหารออกไปเดินสูดอากาศและหาร้านคาเฟ่สวย ๆ เพื่อชมวิวของตึกแฝดก็เป็นความคิดที่ดีอยู่ไม่น้อย

                นอกจากสถานที่เที่ยวข้างต้นที่เป็นเสมือนแหล่งท่องเที่ยวหลัก “กัวลาลัมเปอร์” ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง เช่น การเดินหาของทานเล่นในไชน่าทาวน์ ลิตเติ้ลอินเดีย ชมวัดเทียนฮัวของชาวจีน เดินซื้อของฝากที่ตลาดกลาง ชมอาคารสุลต่านอับดุลซาหมัด (Sultan Abdul Samad Building) และ ชมความงามของสุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) เป็นต้น

เมื่อเที่ยวฟิลิปปินส์แล้วจะไม่อยากลามะนิลา

“ฟิลิปปินส์” ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่คนไทยอาจจะไม่คุ้นเคยนัก ด้วยวัฒนธรรม ศาสนาที่แตกต่าง และออกในแนวจะเป็นยุโรปมากกว่าประเทศพุทธหรืออิสลาม เพื่อนบ้านที่คุ้นเคย ผู้คนส่วนใหญ่ในฟิลิปปินส์นับถือศาสนาคริสต์ ดังนั้นเราจะพบโบสถ์เก่าแก่ ตามแบบสถาปัตยกรรมของสเปนซึ่งเป็นประเทศเจ้าอาณานิคมมาอย่างยาวนาน

                “มหาวิหารแห่งมะนิลา” สถานที่แห่งแรกที่อยากให้ไปเยือนเพราะเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนา เราะจะพบนักท่องเที่ยวมากมายรวมถึงชาวคริสต์ของเมืองมะนิลาแวะเวียนกันมาเสมอ นอกจากนี้หากเกิดอาการเมื่อยขาอยากนั่งรถชมเมืองก็มีรถม้าบริการนักท่องเที่ยวให้นั่งชมวิวเมืองสบาย ๆ หรือจะลองนั่งรถที่เป็นสัญลักษณ์ของมะนิลา “รถจิ๊ปนี่” ซึ่งเป็นรถประจำทางที่ตกแต่งสีสันสดใสในสไตล์แตกต่างกัน ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในการนั่งรถชมรอบเมือง

                “นาขั้นบันไดบานาเว” เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรไปชมอย่างมาก บางคนอาจจะเห็นว่านาขั้นบันไดที่ซาปา ประเทศเวียดนามก็มีไม่ต้องบินไปไกลถึงฟิลิปปินส์ อยากให้ลองคิดทบทวนดูใหม่ เพราะนาขั้นบันไดที่นี่ได้รับการยอมรับจากองค์การยูเนสโกยกย่องให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ยุคใหม่ลำดับที่ 8 ของโลก นาขั้นบันไดบานาเวเป็นร่องรอยทางวัฒนธรรมชนเผ่า Ifugao เมื่อสองพันปีก่อน เป็นวิธีการทำเกษตรกรรมที่ฉลาดมากสำหรับในยุคนั้นซึ่งปัจจุบันชาวนาท้องถิ่นยังคงทำนาข้าวในขั้นบันไดนี้กันอยู่ และหากใครอยากสัมผัสวัฒนธรรมพื้นเมืองสามารถนอนพักรีสอร์ทที่นาขั้นบันไดนี้ได้ด้วย และอยากให้ลองชิมซอสที่ทำจากกล้วยที่นำมาใช้แทนซอสมะเขือเทศที่เราทานกันรสชาติแปลกใหม่แต่ไปในทางที่ดี

                “Pagsanjan fall” น้ำตกแห่งนี้อยู่ห่างจากกรุงมะนิลาประมาณ 90 กิโลเมตร การเดินทางเข้าไปน้ำตกต้องไปทางเรือโดยคนพายเรือจะค่อย ๆ พายเรือไปในแม่น้ำเมื่อถึงเกาะแก่งต่าง ๆ ที่น้ำตื้นเขินคนพายเรือจะทั้งดันทั้งลากรวมถึงแบกเรือที่ให้เรานั่ง เพื่อไปสู่จุดหมายคือน้ำตก เป็นการท่องเที่ยวที่ได้รับประสบการณ์ใหม่มากเพราะเราจะไม่ทันตั้งตัว คนพายเรือก็แบกเราให้ข้ามหินก้อนนี้ไปยังก้อนนั้นเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร นับได้ว่าต้องมีความแข็งแรงและคุ้นชินเส้นทางเป็นอย่างดี หลังจากนั้นคนเรือจะรอเราและให้เราเดินเข้าไปยังน้ำตกซึ่งน้ำไหลแรงมากและจะมีแพให้เราฝ่ากระแสน้ำที่ไหลลงมาจากหน้าถ้ำเพื่อเข้าไปภายในถ้ำ สิ่งที่ตื่นเต้นคือเมื่อแพอยู่ตรงกลางน้ำตกที่ไหลเทลงมาตัวของเราจะจมลงไปในน้ำครึ่งตัวก่อนที่จะโผล่ขึ้นมาอีกทีเมื่อเราเข้ามาอยู่ภายในถ้ำแล้ว การเดินทางครั้งนี้ถือว่าได้รับประสบการณ์แปลกใหม่ของการท่องเที่ยวต่างแดน

          เมื่ออ่านมาถึงย่อหน้าสุดท้ายแล้วคงจะคิดเหมือนกันว่า กรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศฟิลิปปินส์เพื่อนบ้านของไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายซึ่งยังไม่นับรวมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ของฟิลิปปินส์เช่นการกระโดดหน้าผาที่น้ำตก Kawasan หรือดำน้ำเพื่อถ่ายรูปกับฉลามวาฬที่เกาะ Cebu เป็นต้น

“อิโปห์ (IPOH)” ศิลปะข้างถนนที่ต้องค้นหา

การเดินทางครั้งใหม่เกิดขึ้นได้เสมอเพียงลบคำว่า “ไม่มีเวลา” ออกไปจากพจนานุกรมส่วนตัว การได้เจอเพื่อนใหม่ การได้รับไมตรีจากคนแปลกหน้าเวลาหลงทางและขอความช่วยเหลือโดยการถามทางเป็นเรื่องที่น่าสนุกไม่น้อย อยู่ที่มุมมองของแต่ละคน เฉกเช่นงานศิลปะ บางคนมองว่าสวย บางคนมองต่างออกไป ทั้งศิลปะขึ้นห้าง หรือศิลปะขึ้นหิ้ง ไม่เว้นแม้แต่ศิลปะข้างถนนตามกำแพงบ้านเรือน ตามตัวตึกรามบ้านช่อง ซอกซอยที่กำลังเป็นที่นิยมกันไม่น้อยในหมู่ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยเรา

                “อิโปห์” เมืองเล็ก ๆ ของประเทศมาเลเซีย ขนาดเล็กแต่อบอุ่น ตั้งอยู่ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์เพียง 200 กิโลเมตร สามารถเดินทางด้วยรถไฟประมาณ 2 ชั่วโมง หรือเช่ารถขับก็ใช้เวลาไม่นาน ระหว่างทางอาจแวะเที่ยวเก็นติ้งไฮแลนด์ (Genting Highland) นอนพักท่ามกลางอากาศเย็นตื่นมาพร้อมกับสัมผัสสายหมอกในห้องนอน แล้วค่อยออกเดินทางต่อไปยังเมืองอิโปห์ก็ไม่ติดขัดอะไร หรือจะแวะออกนอกเส้นทางไปอีกหน่อยเพื่อแวะชิมชาที่ คาเมรอนไฮแลนด์ (Cameron Highland) ก็เป็นอีกเส้นทางการท่องเที่ยวหนึ่งที่น่าสนใจ

                “อิโปห์ (IPOH)” ศิลปะข้างถนนที่ต้องค้นหา ตามชื่อนั้นเป็นเรื่องจริงที่ตัวงานศิลปะตามถนนนั้นจะหลบซ่อนให้นักท่องเที่ยวต้องค้นหาจะด้วยการเดินหรือการขับรถไปตามจุดต่าง ๆ เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น บางคนหาตามเส้นทางใน google map ไม่เจอไม่ต้องกลัวเพียงยื่นรูปให้ชาวเมืองอิโปห์ดูเจ้าบ้านก็พร้อมใจจะให้คำตอบหรือไม่ก็พาเดินไปยังภาพเหล่านั้นได้ สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดนอกจากชมศิลปะตามตึกแล้วลองแวะชิมกาแฟที่เป็นสาขาต้นกำเนิดของกาแฟร้าน “Old Town White Coffee” กาแฟสัญชาติมาเลเซียอันโด่งดัง หอม หวาน และมัน อร่อยจนต้องกินทุกวันตลอดการเดินทาง

                หลังจากเดินค้นหาภาพวาดจนทั่วเมืองตามคำกล่าวที่ว่า “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” ตระเวนหาของกินในตัวเมืองอิโปห์ ข้าวมันไก่ชื่อดัง ที่ไม่ต้องกลัวสับสนเพราะมี 2 ร้านเปิดประชันความอร่อยกัน หากเดินไปอีกนิดสังเกตร้านที่มีคนต่อคิวกันแถวยาวคือร้านขายหมูแดง หมูกรอบ เป็ดย่าง ผัดผัก และอาหารในสไตล์จีน ร้านนี้อร่อยของจริง ตบท้ายตามสไตล์คาวหวาน เดินไปเรื่อย ๆ จะพบกับร้านน้ำเต้าหู้และเฉาก๊วยที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา ซึ่งร้านดังกล่าวหาไม่ยากดูจากปริมาณคนต่อคิวรอความอร่อยกันได้เลย

                ปิดท้ายเมืองอิโปห์ด้วยตลาดกลางคืน ที่จะพบทั้งของพื้นเมืองและของสากลทั่วไปที่เรียงรายกันมาขายจากพ่อค้าแม่ค้าท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นเจลแต่งผมท่านชายสไตล์วินเทจในราคาย่อมเยา ขนมเปี๊ยะสูตรเด็ด ชาดอกไม้ น้ำมะนาวผงสำเร็จรูป หรือของฝากพื้นเมืองก็มีให้เลือกสรรมากมาย เคล็ดลับเล็ก ๆ ถ้าหากมีโอกาสค้างคืนเมืองเก่านี้ให้เลือกห้องนอนในชั้นสูงหน่อยจะเห็นวิวเมืองในยามค่ำคืนผ่านตัวเมืองเก่าและวิวภูเขาสวยงามในยามเช้าที่ตื่นขึ้นมาต้องร้องว้าวอย่างแน่นอน

“ดานัง – ฮอยอัน” ฉันไม่รักไม่ได้แล้ว

หากมีเวลาไม่มาก เพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับการเดินทางเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ สัมผัสวัฒนธรรมที่แตกต่าง สังสรรค์เพื่อนเก่า เคล้ากับการหาเพื่อนใหม่ ๆ อีกทั้งการเดินทางไปยังประเทศเวียดนามก็สะดวกสบาย นั่งเครื่องบินราคาประหยัด ประหยัดทั้งเงินทั้งเวลา แต่สิ่งที่ได้รับคือพลังชีวิตที่เต็มเปี่ยมเพื่อกลับมาต่อสู้กับการทำงานกันต่อ

                เมืองดานัง เมืองท่าสำคัญของเวียดนามตอนกลาง ติดทะเลจึงเป็นเมืองชายหาดที่สำคัญที่ทั้งนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม หรือนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกนิยมมาพักผ่อนตากอากาศกัน ชายหาดที่ยาวสุดลูกหูลูกตา คลื่นลมที่พัดแรง ทรายที่นุ่มเท้า น้ำทะเลสีครามนับได้ว่าเป็นสวรรค์หนึ่งของนักเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองดานัง นอกจากทะเล ยังมีภูเขาหินอ่อน 5 ลูกตั้งตระหง่านเพื่อรอให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปสัมผัสวิวที่สวยงามของเมือง สำหรับการไหว้พระขอพรมีวัดลินห์อึ๋ง (Linh Ung Temple) อันเป็นสถานที่สักการะเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ ซึ่งชาวดานังให้การเคารพนับถือกันมาก ถัดจากนั้นยามเย็นอย่าลืมไปเดินเล่นริมสะพานมังกร รับลมริมแม่น้ำ เดินสวนไปมากับหนุ่มสาวชาวดานัง และพร้อมรับชมการแสดงแสงสีจากมังกรที่พาดตัวกลางสะพาน ในทุกค่ำคืนของวันเสาร์ ก็ทำให้ตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อย

                ตื่นเช้าอีกวันต้องเสียสละเวลาทั้งวันตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงพลบค่ำเพื่อขึ้นกระเช้าที่มีความยาวที่สุดในโลกเพื่อขึ้นไปสัมผัสบรรยากาศเย็นตลอดทั้งปีที่ “บานาฮิลล์ (Bana hills)” ที่มีทั้งสวนสุนกสำหรับเด็ก ๆ ซุ้มอาหารนานาชาติ และสถานที่สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สถานที่แห่งนี้มีวัฒนธรรมที่ผสมผสานทั้งยุโรปแบบฝรั่งเศส และศิลปะแบบจีน เวียดนาม ถ้ามีเวลาสามารถพักค้างคืนพร้อมกับชมการแสดงและอาหารมื้อค่ำสุดพิเศษได้จุใจในสไตล์บุฟเฟต์ หากไม่มีเวลาก็ลงมาพักพร้อมกับหาอาหารทะเลริมชายหาดทั้งกุ้ง หอย ปู ปลาสด ๆ ราคาย่อมเยา

                “ฮอยอัน” ห่างจากตัวเมืองดานังไม่มากนั่งรถยนต์ประมาณครึ่งชั่วโมงไปตามชายหาด หลับได้ไม่ลึกก็ถึงตัวเมืองแล้ว ตัวเมืองโบราณสีเหลืองบริเวณกว้างใหญ่สามารถเดินได้ถ้ามีเวลาและไม่กลัวร้อนในเวลากลางวัน อีกช่องทางหนึ่งคือการเช่าจักรยานเพื่อความรวดเร็วในการเก็บสถานที่สำคัญ ๆ ให้หมดเช่น สะพานญี่ปุ่น บ้านโบราณ พิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งสามารถไปเช้าเย็นกลับได้ แต่ถ้าใครมีเวลาการค้างคืนสัก 1 คืนก็ดีไม่น้อยเพราะมีตลาดกลางคืน ที่พ่อค้าแม่ค้าชาวฮอยอันพร้อมใจกันออกมาค้าขายและอวดสินค้าพื้นเมือง อวดโคมไฟสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งให้นักท่องเที่ยวเดินทอดน่องกันสบายใจ อีกทั้งช่วงกลางคืนสามารถเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวบางสถานที่ฟรีด้วย เมื่อถึงฮอยอันสิ่งที่ไม่ควรพลาดได้แก่การไปล่องเรือกระด้ง (basket boat) สุดตื่นเต้นเร้าใจ และลิ้มลองอาหารในเมืองเก่าได้แก่ ข้าวมันไก่ หมูย่าง และน้ำดอกบัว รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

                สุดท้ายหวังว่าหากพอมีเวลาให้ความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ กับตัวเองหรือใช้เวลาว่างกับคนที่รัก เพื่อนฝูง ครอบครัว ลองออกเดินทางหาประสบการณ์แปลกใหม่ในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสานความสัมพันธ์ก็เป็นเรื่องที่ดีต่อใจไม่น้อยเลยทีเดียว

“เมียนมา ดื่มชา ไหว้พระ ขอพร อ้อนเทพ”

“เจดีย์ชเวดากอง” แหล่งรวมความศรัทธาของชาวพุทธ เจดีย์องค์ใหญ่สีทองตัดกับสีฟ้าครามของท้องฟ้าที่ปลอดมลพิษตั้งสูงตระหง่านอยู่กลางเมืองย่างกุ้ง เมืองหลวงเก่าของเมียนมา ส่วนใหญ่เมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงย่างกุ้งจะคิดถึงการชื่นชมศิลปวัฒนธรรมแบบพม่า ผ่านวัดวาอารามที่มีเรียงรายทั่วเมือง ในบทความนี้จะพาทุกท่านไปเที่ยวให้ครบทุกรสชาติ ทั้งดื่มชา ไหว้พระ ขอพร อ้อนเทพ

                ย่างกุ้งเป็นเมืองที่มีความร้อนพอสมควรไม่ต่างจากกรุงเทพฯ ของเรา ดังนั้น เครื่องดื่มยอดนิยมต้องมีน้ำแข็งเป็นส่วนประกอบเพื่อการคลายร้อน และชาเย็นแบบพม่าใส่น้ำแข็งทำให้สดชื่นได้ในยามเดินทาง ชาเย็นพม่าต่างจากไทยตรงความหวานมันที่ต่างกัน ชาพม่าจะมีรสหวานจางแต่มีความเฝื่อนของชาที่มากกว่าและความหอมของชาพม่าที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ชนะใจนักท่องเที่ยวจนเป็นสินค้าของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านกัน ในส่วนของร้านชา คาเฟ่ต่าง ๆ ย่างกุ้งก็มีให้บริการในหลากหลายสไตล์ทำให้ยกระดับชาของพม่าจากข้างทางมาอยู่ในร้านสวยหรูได้

                “เจดีย์สุเล (Sule Pagoda)” เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมสร้างขึ้นเมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว ภายในบรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า พระเจดีย์นี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแห่งที่นักถ่ายรูปต้องมาถ่ายและไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าเจดีย์สุเลจะตั้งอยู่ตรงวงเวียนใจกลางเมืองที่วุ่นวายแต่เมื่อเข้าสู่ภายในบริเวณเจดีย์กลับพบความสงบโดยสามารถมานั่งสมาธิและไหว้พระรอบ ๆ องค์พระเจดีย์ได้

                 “เจดีย์เยเลพญา (Kyaik Hwaw Wun Pagoda)” หรือ เจดีย์กลางน้ำ ตั้งอยู่ที่เมืองสิเรียมไม่ไกลจากย่างกุ้งมากนัก เป็นอีกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวเมียนมา เจดีย์กลางน้ำต้องข้ามเรือผ่านกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก เมื่อขึ้นถึงฝั่งบนเกาะอย่าลืมไหว้พระขอพรเรื่องการทำธุรกิจการค้า ซึ่งเป็นเรื่องเด่นของสถานที่แห่งนี้

                “เจดีย์โบตะตาว” วัดชื่อดังด้านการขอพรจากเทพทันใจ หรือในภาษาพม่าเรียกว่า “นัตโบโบยี” โดยที่เรียกว่าเทพทันใจเนื่องมาจากใครมาขอพรที่นี่ก็จะได้รับพรแบบรวดเร็วทันใจ เมื่อได้ตามสิ่งที่หวังก็ต้องกลับมาแก้บนกับท่าน หากข้ามไปอีกฝากฝั่งถนนจะพบกับเทพกระซิบ หรือในภาษาพม่าว่า “อะมาดอว์เมียะ” ที่ต้องเข้าไปกระซิบเพื่อขอพรกับท่าน ก็ถูกบรรจุเป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่ห้ามพลาดในการไปขอพรอ้อนเทพ

                หลังจากใช้เวลาทั้งวันเพื่อดื่มชา ไหว้พระขอพร อ้อนเทพแล้ว หากยังพอมีเวลาลองไปหาของทานมื้อค่ำดี ๆ แนะนำที่ไชน่าทาวน์ของย่างกุ้ง ที่มีอาหารทั้งคาวหวาน ไม่ว่าจะเป็นอาหารปิ้งย่าง เครื่องในหมูพะโล้ ผลไม้สดตามฤดูกาล ทั้งสาลี่ มังคุด และทุเรียน นับได้ว่าไชน่าทาวน์ที่นี่คึกคักไม่แพ้กับไชน่าทาวน์ที่อื่น และไม่ต้องกลัวว่ามาเที่ยวย่างกุ้งไม่สามารถทานอะไรได้ ที่นี่อุดมไปด้วยอาหารทะเล และอาหารจีนที่อร่อย อีกทั้งพ่อค้าแม่ค้ายินดีที่จะสนทนากับเราเป็นภาษาไทยอีกด้วย

“กรีซ” ดินแดนเทพเจ้า นักปรัชญาและเกาะในฝัน

หากพูดถึงดินแดนแห่งเทพเจ้าหลายท่านคงนึกถึง ประเทศกรีซ หรือชื่อประเทศอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐเฮเลนิก เป็นที่แรก นอกจากกรีซจะเป็นดินแดนของเทพปกรณัมกรีก ต้นกำเนิดของอารยธรรมตะวันตก ประเทศกรีซยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามทั้งภูเขา ทั้งทะเล และที่สำคัญหมู่เกาะสวยงามมากมาย การเดินทางท่องเที่ยวในกรีซสะดวกสบายมากไม่ต้องเช่ารถขับให้หวาดเสียวทั้งคนขับและเจ้าถิ่น สามารถใช้การเดินทางด้วยบริการสาธารณะได้สบาย ๆ สำหรับการเดินทางเข้าประเทศกรีซจำเป็นต้องขอวีซ่าก่อน

                “เอเธนส์” เมืองหลวงของประเทศกรีซ มีจำนวนประชากรมากที่สุดของประเทศ เมืองแห่งประวัติศาสตร์และแหล่งรวมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น “Acropolis of Athens” การชื่นชมความงามของวิหารพาร์เธนอน ที่ตั้งตระหง่าน ยิ่งในตอนค่ำที่แสงไฟช่วยสาดส่องความงดงามของวิหารให้เห็นเป็นที่ประจักษ์คุ้มค่าแก่การนั่งมองให้นาน นอกจากนี้ข้างบนอะโครโพลิสยังมี โรงละครสมัยโบราณ (Theatre of Dionysus) และ Odeon of Herodes Attticus ก็เป็นโรงละครกลางแจ้งที่ยังคงมีสภาพสมบูรณ์และอลังการมาก หรือผู้ที่ชื่นชอบพิพิธภัณฑ์ด้านล่างมีพิพิธภัณฑ์ Acropolis Museum ให้ได้ชมความเป็นมาและงานศิลปะของจริงจากวิหารพาร์เธนอน

            เมื่อเดินลัดเลาะกรุงเอเธนส์จะพบต้นส้มและผลส้มที่ทั้งอยู่คาต้นและร่วงลงพื้นมากมาย แต่ไม่มีใครสนใจเก็บเลยแอบถามคนเมืองเอเธนส์ได้ความว่าการนำมากินสด ๆ ไม่อร่อย ไม่แนะนำให้ทาน สิ่งที่เจ้าถิ่นแนะนำให้ลองทานได้แก่ สลัดกรีก และที่อร่อยมากได้แก่ โยเกิร์ตของกรีกที่รสชาติละมุนละไม ไม่เปรี้ยวเกิน เมื่อตัดกับความหวานของผลไม้เชื่อมนานาชนิดรวมถึงผลส้มที่เห็นอยู่ข้างทางนั้น นับได้ว่าเป็นประสบการณ์การกินที่ควรค่าแก่การจดจำ นอกจากจะชมความงามของสิ่งก่อสร้างโบราณของเอเธนส์ การชมการเปลี่ยนเวรยามของทหารเวรหน้ารัฐสภาก็ควรค่าแก่การชมสักครั้งหนึ่งเมื่อมาเยือนเอเธนส์

            สำหรับเกาะในฝันที่ใครหลายคนสัญญากับตัวเองว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปสัมผัสให้ได้คือ “ซานโตรินี (Santorini)” หมู่เกาะรูปโค้งในทะเลอีเจียนที่สามารถเดินทางได้ทั้งทางเรือและเครื่องบินภายในประเทศ ตึกรามบ้านช่องสีขาวหลังคาสีฟ้าไล่เรียงจากตามผาชันสูงลงมาต่ำสุดสุดลูกหูลูกตา สามารถเดินลัดเลาะไปได้เรื่อย ๆ ไม่มีหลง พอตกเย็นนักท่องเที่ยวไม่ว่าอยู่จุดใดจะเดินมารวมตัวกันเพื่อชมอาทิตย์ลับขอบฟ้า หากใครไปเป็นคู่รักจะพบว่าบรรยากาศนี้ช่างโรแมนติกเสียจริง นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ด้วยรถประจำทางของเกาะ ซึ่งแต่ละพื้นที่นั้นใช้เวลาเดินทางไม่นาน ค่ารถประจำทางก็แสนถูก การเดินทางไปถ่ายรูปที่หาดทรายแดง (Red Beach) หาดทรายดำ (Kamari Black Sand Beach) ทั้งสองหาดถ่ายรูปให้ตัดกับสีสันสดของเสื้อผ้าก็เป็นสถานที่ที่จะเก็บภาพสวย ๆ ตั้งเป็นโปรไฟล์รูปเก็บไว้อวดเพื่อนได้เลย

                หากใครมีวันหยุดยาวอยากเดินทอดน่องสบาย ๆ กรีซและซานโตรินีเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ผู้คนยิ้มแย้มอาหารไม่แพง การเดินทางสะดวกสบาย แต่ต้องระวังมิจฉาชีพเช่นกันเนื่องจากประเทศประสบกับปัญหาเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับการเดินทางไปประเทศอื่น ๆ การระวังตัวและหลีกเลี่ยงจากสิ่งที่อันตรายเป็นสัญชาตญาณที่นักท่องเที่ยวพึงต้องมี

อัมสเตอร์ดัม เมืองที่อบายมุขถูกกฎหมาย

การใช้ชีวิตอยู่ในกรอบตลอดเวลา บางครั้งก็ทำให้รู้สึกเบื่อหน่าย จำเจ เพราะไม่มีสิ่งใหม่ ๆ มาสร้างความรู้สึกตื่นตาตื่นใจให้กับชีวิต แต่ความรู้สึกเหล่านี้จะหมดไปทันที หากท่านผู้อ่านเก็บเสื้อผ้า จัดกระเป๋า แล้วหนีไปเที่ยวที่เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

อัมสเตอร์ดัม เป็นเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งแน่นนอนว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่มีครบทุกอย่างจริง ๆ แถมยังมีธุรกิจและการบริการหลาย ๆ อย่างที่ผิดกฎหมายในหลาย ๆ ประเทศ แต่ถูกกฎหมายสำหรับที่นี่ ให้นักท่องเที่ยวได้ลองเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ กัน อ่านมาถึงตรงนี้ ทำให้ท่านทั้งหลายอยากรู้แล้วใช่ไหมว่า ธุรกิจและการบริการอะไรบ้างที่เมืองอัมสเตอร์ดัมมีอย่างถูกกฎหมาย แต่ยังผิดกฎหมายสำหรับหลาย ๆ ประเทศ ตามมาดูกันเลย

อัมสเตอร์ดัมเมืองเสรีกัญชา หากเข้าสู่เมืองอัมสเตอร์ดัมแล้วเห็นควันโขมงเต็มทั่วท้องถนนไปหมด ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะเมืองนี้เป็นเมืองเสรีกัญชา ผู้คนในเมืองนี้สูบกัญชาเป็นเรื่องปกติเนื่องจากกัญชาถูกกฎหมาย แถมยังมีราคาไม่สูงมากหากท่านมาเยี่ยมเยือนเมืองนี้แล้วเกิดอยากจะลองสูบกัญชาสักครั้งในชีวิต ขอแนะนำให้เดินไปที่ย่าน Red light district ย่านนี้เป็นย่านที่มีผลิตภัณฑ์จากกัญชาเยอะมาก เช่น น้ำมันกัญชาแบบก้อน ซึ่งต้องนำไปม้วนก่อนสูบ จะคล้าย ๆ การสูบใบจากยาเส้นบ้านเรา น้ำมันกัญชาแบบเหลว ใช้วิธีหยดใต้ลิ้นเพื่อให้กัญชาออกฤทธิ์กล่อมประสาทอ่อน ๆ กัญชาบดพร้อมสูบกับบ้อง ต้องนำกัญชาบดใส่บ้อง จากนั้นจึงสูบ นอกจากนี้ยังมีขนมหวานกัญชาให้รับประทานอีกด้วย ซึ่งทางร้านจะผสมกัญชาลงไปในขนมหวาน เหมาะสำหรับคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อนหรือคนที่อยากลองเสพกัญชาในปริมาณอ่อน ๆ เป็นต้น  

การค้าประเวณี สำหรับอัมสเตอร์ดัมแล้ว การค้าประเวณีเป็นสิ่งถูกกฎหมาย เพราะเมืองนี้เล็งเห็นว่า การค้าประเวณีสามารถลดการก่ออาชญากรรมทางเพศได้ อีกทั้งยังสามารถทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวของเมืองเติบโต หากท่านไปเที่ยวที่อัมสเตอร์ดัมแล้วพบเจอหญิงค้าบริการตามสถานที่ต่าง ๆ ก็อย่าตกใจไปล่ะ เพราะมันคือเรื่องปกติของคนที่นั้น ส่วนท่านจะใช้บริการหรือไม่ก็ตามแต่วิจารณญาณ  

การพนัน คาสิโนของที่นี่ถูกกฎหมาย ถ้าท่านไปเที่ยวเมืองนี้แล้วเกิดอยากลองเสี่ยงดวงแก้เบื่อก็สามารถทำได้ แต่ต้องขอเตือนไว้ก่อนว่า “ระวังหมดตัว” เพราะที่นี่มีเกมการพนันที่หลากหลายให้ได้เล่นกัน และที่สำคัญ การที่จะเข้าไปเล่นการพนันในบ่อนคาสิโนได้นั้น ผู้อ่านต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี

หากท่านเป็นคนที่ไม่ชอบลองสิ่งใหม่ ๆ ก็อย่าเพิ่งน้อยใจไป เพราะอัมสเตอร์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้ท่านได้ไปเยือนอีกหลายที่ เช่น พิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ปราสาท พระราชวัง จัตุรัส Dam Squareโรงผลิตเบียร์เก่าของ Heineken เป็นต้น และการไปเที่ยวอัมสเตอร์ดัมนั้นต้องตระหนักไว้เสมอว่า บางสิ่งบางอย่างถูกกฎหมายสำหรับที่นี่ก็จริง แต่ผิดกฎหมายสำหรับหลายประเทศ เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายอย่าเผลอซื้อของฝากจำพวกกัญชาติดไม้ติดมือมาฝากคนที่บ้านล่ะ เพราะอาจจะทำให้ท่านผู้อ่านได้ไปนอนซังเตแทนการนอนที่บ้าน ประเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!!!

เมื่อไปอังกฤษ อย่าพลาดที่จะกินสิ่งเหล่านี้

อังกฤษเป็นประเทศที่อยู่ในทวีปยุโรป และเป็นประเทศต้นแบบสำหรับหลายประเทศในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของระบบการศึกษา ระบบกฎหมาย ระบบเศรษฐกิจ การคมนาคม วัฒนธรรมและอาหารการกิน ซึ่งประเทศไทยเองก็เป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับเอาระบบต่าง ๆ รวมทั้งวัฒนธรรม โดยเฉพาะเรื่องวัฒนธรรมอาหารและเครื่องดื่มมาจากประเทศอังกฤษ แต่อาหารบางอย่างนั้น ได้ถูกปรุงรสชาติให้เหมาะกับลิ้นของคนไทย จึงทำให้เสียรสชาติต้นฉบับไปบ้าง ดังนั้นแล้วหากท่านผู้อ่านมีโอกาสได้ไปท่องเที่ยวในประเทศอังกฤษ ก็ไม่ควรพลาดที่จะไปสัมผัสรสชาติอาหารและเครื่องดื่มแบบดั้งเดิมของประเทศอังกฤษ ซึ่งมีอะไรกันบ้าง ตามมาดูกันเลย

ชาตากแห้ง        

ถึงแม้ว่าต้นกำเนิดของใบชาจะไม่ได้มาจากประเทศอังกฤษ แต่อังกฤษเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการดื่มชาเป็นอย่างมาก ซึ่งการดื่มชาของชาวอังกฤษจะแตกต่างจากการดื่มของชาติอื่น เพราะชาติอื่นนิยมดื่มชาเพื่อแก้กระหายเท่านั้น แต่สำหรับชาวอังกฤษแล้ว การดื่มชานั้น ถือเป็นวัฒนธรรมที่สำคัญอย่างหนึ่ง หมายความว่าในทุก ๆ มื้ออาหารนั้น จะต้องมีชาเสิร์ฟคู่อาหารเสมอ ซึ่งชาที่ชาวอังกฤษนิยมดื่มกันได้แก่ ชาเอิร์ลเกรย์(Earl Grey Tea) ชาผลไม้ ชาสมุนไพร เป็นต้น จริง ๆ แล้วการหาซื้อชาสำเร็จรูปของประเทศอังกฤษในประเทศไทยนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ชาของอังกฤษที่ผู้อ่านไม่สามารถหาซื้อในเมืองไทยได้และหาดื่มได้ในประเทศอังกฤษเท่านั้น คือ ชาตากแห้ง ที่ไม่ผ่านกระบวนการผสมน้ำมันหอมระเหย หรือการหมักดองอย่างชาสำเร็จรูป ซึ่งหากผู้อ่านได้ลองดื่มชาตากแห้งของอังกฤษ จะรู้ทันที่ว่า รสชาติของชาตากแห้งนั้นแตกต่างกับชาสำเร็จรูป

เบียร์ท้องถิ่น

            ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนในประเทศอังกฤษ สิ่งหนึ่งที่เจอซ้ำ ๆ และเจอแทบทุกซอกตรอกซอยเลยก็คือ “ร้านเหล้า” และร้านเหล้าในประเทศอังกฤษนั้นไม่ได้ขายแต่เหล้า เบียร์ ยี่ห้อดัง ๆ เท่านั้น ร้านเหล้าของที่นี่จะเน้นขายคราฟท์เบียร์ท้องถิ่น ซึ่งแต่ละยี่ห้อนั้นจะมีรสชาติ ความนุ่ม เบา และความเป็นเอกลักษณ์ที่ต่างกัน หากท่านผู้อ่านเป็นคอเบียร์ อย่าลืมพลาดที่จะจิบคราฟท์เบียร์ของประเทศนี้นะ

ชีสที่ผลิตจากขบวนการธรรมชาติ

            อังกฤษมีผลิตภัณฑ์ชีสที่โด่งดังได้แก่ Wensleydale, Leicester, Stilton, Shropshire Blue, Cheddar, Swale dale Single Gloucester, และStaffordshire Dovedale เป็นต้น ซึ่งชีสแต่ละยี่ห้อนั้นมาจากสถานที่ที่ต่างกัน กระบวนการในการผลิตก็ย่อมต่างกัน แต่ส่วนมากจะผลิตตามขบวนการธรรมชาติ จึงทำให้ชีสแต่ละยี่ห้อนั้นมีรสชาติที่ไม่ต่างกันมากนัก ต้องขอบอกว่าชีสของที่นี่แตกต่างจากชีสที่วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างแน่นอน เพราะชีสที่นี่เป็นชีสแท้ ไม่ผสมครีมเทียม เกลือ และสีผสมอาหาร แต่ชีสที่ประเทศไทยนำเข้านั้น ส่วนมากจะถูกผลิตโดยขบวนการที่ไม่เป็นธรรมชาติ คือ จะมีการเติมแต่งกลิ่น สี และรสชาติโดยเกลือหรือน้ำตาล เพื่อเป็นการถนอมชีสให้มีอายุนานขึ้น ดังนั้นแล้วหากผู้อ่านเป็นคนชอบกินชีส อย่าลืมลองกินชีสแท้ของอังกฤษดูนะ รับรองว่าจะต้องติดใจแน่นอน

จริง ๆ แล้วอังกฤษเป็นประเทศที่น่าสนใจในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัฒนธรรม สังคม สถานที่ท่องเที่ยว หรืออาหาร ซึ่งการไปประเทศอังกฤษนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ดังนั้นนักท่องเที่ยวต้องแสดงความพร้อมและความบริสุทธิ์ใจในการเดินทางเข้าประเทศอังกฤษ และเมื่อเดินทางไปถึงประเทศอังกฤษแล้ว ก็ควรปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศด้วย เพราะหากทำตามอำเภอใจ ละเลยกฎหมายและกฎระเบียบของบ้านเมืองเขา ในอนาคตลูกหลานของเราอาจจะพบกับความยุ่งยากในการเดินทางเข้าประเทศอังกฤษเป็นได้  

มาเลเซียกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตตลอดกาล

หากพูดถึงประเทศมาเลเซีย หลายคนอาจจะคิดว่ามาเลเซียเป็นประเทศที่มีความเป็นมุสลิมอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วมาเลเซียเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางด้านเชื้อชาติ ได้แก่ ชาวพื้นเมือง ชาวจีน ชาวอินเดีย และชาวต่างชาติอื่น ๆ จึงทำให้อาหาร ภาษา และวัฒนธรรม ถูกผสมผสานความหลากหลายเข้าด้วยกัน ซึ่งถือว่าเป็นเสน่ห์ที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของประเทศนี้เลย

ชาวไทยไม่น้อยนิยมไปเที่ยวในมาเลเซีย เนื่องจากมีความสะดวกสบายในการเดินทาง ซึ่งมีช่องทางให้เลือกเดินทางได้ทั้งทางรถยนต์ ทางรถไฟ ทางเครื่องบิน และทางเรือ นอกจากนี้การเดินทางเข้าประเทศมาเลเซียของคนไทยนั้น ไม่ต้องขอวีซ่า มีเพียงแค่หนังสือเดินทางก็สามารถเดินทางเข้าประเทศมาเลเซียได้เลย

สถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด     

มาเลเซียเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและหลากหลายไม่น้อยหน้าประเทศอื่นเลย แต่บทความนี้จะ ขอกล่าวถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกตลอดกาล ซึ่งมีสถานที่ใดบ้าง ไปดูกันเลย

ตึกแฝดเปโตรนาส (Petronas Twin Towers) ตั้งอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมาเลเซีย ไม่ว่าจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจะเป็นที่ใดในมาเลเซีย แต่หากไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับตึกแฝดคู่นี้ ก็เท่ากับว่ามาไม่ถึงมาเลเซีย ถ้าหากนักท่องเที่ยวอยากได้รูปสวย ๆ คู่กับตึกแฝด ขอแนะนำว่าให้อดใจรอพระอาทิตย์ตกดินสักนิด เพราะทางตึกนั้นจะทำการเปิดไฟที่มีสีสันสดใส เพื่อประดับประดารอบ ๆ ตึกแฝด

ถ้ำบาตู (Batu Cave) อยู่ไม่ไกลจากตึกแฝดมากนัก เพียงแค่เดินไป KL Sentral และซื้อตั๋วรถไฟฟ้าซึ่งมีทั้งเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติและช่องขายตั๋ว จากนั้นให้เลือกจุดหมายปลายทางเป็นสถานี Batu Caves เมื่อได้ตั๋วแล้วให้เดินลงไปชั้นล่างเพื่อรอรถไฟฟ้า ให้สังเกตว่ารถไฟฟ้าคันที่ต้องขึ้นจะมีข้อความว่า Batu caves หน้าขบวน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาทีก็มาถึงสถานี batu caves จากนั้นให้เดินขึ้นไปบนสถานี และจะเห็นเห็นถ้ำ batu caves ซึ่งสองข้างทางมีร้านค้าร้านอาหารต้อนรับตลอดทาง เดินตามทางไปชั่วครู่ก็จะพบกับรูปปั้นพระขันธกุมารขนาดสูงใหญ่ ซึ่งมีความสง่างามมาก นอกจากนี้ยังมีบันไดให้เดินเข้าไปชมภายในถ้ำอีกด้วย ส่วนท่านผู้อ่านจะขอพรอะไรนั้นก็ตามแต่ใจเลยนะ

ปีนัง ถึงแม้ว่ารัฐปีนังจะไกลเมืองหลวงอยู่เอาการ แต่ขอบอกเลยว่าที่นี่สวยไม่แพ้เมืองหลวงเลยนะ ปีนังหรือเกาะหมากในอดีตนั้น เป็นเมืองที่ไม่เคยดับชื่อเสียงของตัวเองเลยและเป็นเมืองที่ Street Art ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก นอกจากสตรีทอาร์ทสวย ๆ ที่รอให้นักท่องเที่ยวไปถ่ายรูปด้วยแล้ว ก็ยังมีอาหารหลากหลายวัฒนธรรมรอให้นักท่องเที่ยวไปลิ้มลองอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาหารอินเดีย อาหารไทย อาหารจีน อาหารมุสลิม หรือ อาหารปากีสถาน เป็นต้น

                การเข้าประเทศมาเลเซียสำหรับคนไทยนั้น ถือว่าเป็นเรื่อง่าย เพราะไม่ได้มีกฎกติกาที่เยอะแยะเหมือนกับประเทศอื่น จึงทำให้คนไทยบางคนหนีเข้าไปทำงานอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งตรงนี้ส่งผลไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และส่งผลไปถึงลูกหลานในอนาคต เพราะฉะนั้นแล้วถ้าหากอยากไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ก็ควรทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย

เที่ยวปารีส ดินแดนแห่งความรักและสถาปัตยกรรมแห่งประวัติศาสตร์

ประเทศฝรั่งเศส เป็นอีกประเทศหนึ่งที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของใครหลาย ๆ คนและเป็นประเทศท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เมืองที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในประเทศฝรั่งเศสก็คือเมืองปารีสนั่นเอง โดยปารีสนั้นเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่านครแห่งแสงสี สวรรค์ของคู่รักและใจกลางแฟชั่นของโลก อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะชื่อดังที่สุดของโลก หอไอเฟลและประตูชัยฝรั่งเศส

สิ่งที่ควรรู้ก่อนไปเที่ยวเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ประเทศฝรั่งเศสจะมีความสวยงามมากเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรือในช่วงเดือนกันยายนจนถึงเดือนมีนาคมของทุกปี ซึ่งใบไม้ทั้งหมดจะเริ่มเปลี่ยนสี เป็นภาพที่สวยงาม หรือจะเลือกมาท่องเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือหน้าร้อนที่มีอากาศกำลังดี สบาย เหมาะกับการเดินท่องเที่ยวไปตามจุดต่าง ๆ ของเมืองปารีสก็ได้ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวฝรั่งเศส นอกจากจะต้องเตรียม Visa แลกเงินยูโร เตรียมข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวและเสื้อผ้าที่เหมาะกับภูมิอากาศตามแต่ฤดูกาลที่จะไปเยือนฝรั่งเศสแล้ว ยังต้องนำ Universal Adapter สำหรับต่อหัวเครื่องใช้ไฟฟ้าที่นำไปจากประเทศไทยไปด้วย เพราะปลั้กไฟของฝรั่งเศสจะเป็นหัวกลมคู่ ซึ่งต่างจากประเทศไทย

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ พิพิธภัณฑ์ศิลปะชื่อดังของโลก

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เคยเป็นป้อมปราการและที่อยู่ของราชวงศ์ฝรั่งเศสก่อนพระราชวังแวร์ซายส์ นอกจากนั้นยังเคยเป็นที่อยู่ของเหล่าศิลปินก่อนจะถูกเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ. 1793 โดยตัวพิพิธภัณฑ์มีพื้นที่กว่า 60,000 ตารางเมตร รวบรวมงานศิลปะกว่า 30,000 ชิ้น มาจากหลายยุคหลายสมัย ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด งานปั้น รูปแกะสลักไปจนถึงวัตถุโบราณ เป็นสถานที่เก็บรักษางานศิลปะที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างภาพโมนาลิซ่าและผลงานของศิลปินชื่อดังอย่างดาวินชี จึงทำให้พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

หอไอเฟล แลนด์มาร์คซึ่งเป็นที่สุดของเมืองปารีส

หอไอเฟล เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นโครงเหล็กสูง 300 เมตร สร้างโดยกุสตาฟ ไอเฟลซึ่งเป็นสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนถนนชองป์ เดอ มารส์ โดยตอนแรกทางการฝรั่งเศสตั้งใจให้หอไอเฟลเป็นสิ่งปลูกสร้างชั่วคราวเพื่อใช้ในงานจัดแสดงสินค้าเท่านั้น หากแต่ด้วยความที่มีความสวยงามและกลายเป็นที่สนใจทั่วโลก ทำให้ทางการฝรั่งเศสเปลี่ยนใจไม่รื้อหอไอเฟลและทำเป็นสถานีรับส่งสัญญาณวิทยุแทน แม้ตอนนี้จะมีการเอาเสาสัญญาณออกไปหมดแล้ว แต่หอไอเฟลก็กลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศฝรั่งเศส หากนักท่องเที่ยวอยากจะถ่ายรูปหอไอเฟลได้อย่างสวยงามและไม่มีทั้งคนและสิ่งปลูกสร้างใด ๆ มาบัง แนะนำให้ไปถ่ายรูปที่บริเวณลานหน้าปราสาท Palais de Chaillot

นอกจากนั้น ฝรั่งเศสยังมีสถาปัตยกรรมที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและศิลปะที่งดงามอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีสซึ่งคืออีกหนึ่งโบสถ์ที่อันแสนโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ด้วยสถาปัตยกรรมแบบกอธิค โดยคำว่าน็อทร์-ดาม แปลว่าพระแม่แห่งพรมจารีย์ในภาษาฝรั่งเศส และประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de triomphe de l’Étoile) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อยกย่องเหล่าทหารทีร่วมรบอย่างกล้าหาญในสงครามนโปเลี่ยนของฝรั่งเศส ซึ่งทุกสถานที่ล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความตั้งใจของคนในยุคนั้นที่ต้องการจะสร้างสถานที่ที่สวยงามและยิ่งใหญ่ ควรค่าไปเยี่ยมชมเป็นอย่างมาก ไม่แปลกใจเลย ที่ปารีสกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวอันเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลก