Category: เที่ยวในประเทศ

Hoshihana Village รีสอร์ทสวยในเชียงใหม่ การพักผ่อนและแบ่งปันอย่างแท้จริง

เวลาที่เราจะออกเดินทางท่องเที่ยวในแต่ละครั้งนั้น ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวจะต้องมีจุดประสงค์ของการเดินทางอยู่ในใจและจะดีมากแค่ไหน หากสถานที่ที่เราเลือกมาพักผ่อนนั้น ให้ความสุข ความอิ่มเอมใจแก่เรา และในการมาพักผ่อนทำให้เราได้แบ่งปันสิ่งดี ๆ ต่อผู้อื่นได้มากกว่าที่เราคิด นักท่องเที่ยวไทยน้อยคนที่จะรู้จักรีสอร์ทสวย ที่มีความเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติแห่งหนึ่ง ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่แค่ 20 นาที ตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่บ้านในพื้นที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ และมีชื่อว่า “Hoshihana Village”

จุดเริ่มต้นของ Hoshihana Village เรื่องราวความเป็นมา ที่เป็นได้มากกว่าที่พัก

Hoshihana Villlage มีเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจมาก รีสอร์ทแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งรายได้ เพื่อนำไปสนับสนุนให้กับ “Ban Rom Sai” หรือ “บ้านร่มไทร” ซึ่งเป็นสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ที่ต้องสูญเสียพ่อแม่จากโรคเอดส์ และเด็ก ๆ ที่ได้รับเชื้อ HIV จากแม่ใน จ. เชียงใหม่ ความเป็นมาคร่าว ๆ ของ “บ้านร่มไทร” เริ่มต้นก่อตั้งเมื่อปี 1999 โดยผู้ก่อตั้งที่เป็นชาวญี่ปุ่น ได้รับเด็ก ๆ กว่า 30 ชีวิตเข้ามาอยู่ในความดูแล ที่บ้านร่มไทร โดยให้การดูแลเด็ก ๆ ทุกคนเป็นอย่างดี และให้เด็กทุกคนรู้สึกว่าที่นี่เป็น “บ้าน” ของพวกเขา โดยสอนทักษะอาชีพที่เด็ก ๆ ทุกคนสามารถนำไปต่อยอดเพื่อหาเลี้ยงตนเองยามเมื่อพวกเค้าเติบโตขึ้น ควบคู่ไปกับการศึกษา รวมทั้งให้การดูแลรักษาเด็กที่ได้รับเชื้อ HIV เป็นอย่างดี

นอกจากนี้บ้านร่มไทรยังมีเด็ก ๆ ในความดูแลจากความจำเป็นหลายเหตุผล เช่น พ่อแม่เป็นผู้อพยพจากประเทศเพื่อนบ้าน หรือบางคนครอบครัวยากจนและไม่สามารถเลี้ยงดูพวกเค้าได้ ผู้ก่อตั้งบ้านร่มไทร จึงได้สร้าง Hoshihana village ขึ้นมา แรกเริ่มนั้นเป็นสถานที่รองรับแขกที่เป็นผู้ให้การสนับสนุนบ้านร่มไทร ต่อมาจึงค่อย ๆ ขยายพื้นที่และสร้างบ้านพักเพิ่มขึ้น ให้กลายเป็นรีสอร์ทสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาพักผ่อนในบรรยากาศที่เงียบสงบ จนมีรายได้นำไปสนับสนุนในการดูแลแด็ก ๆ บ้านร่มไทรเพิ่มขึ้นอีกทาง

Hoshihana Village Cottage Resort นิยามของคำว่าพักผ่อนและการแบ่งปันที่แท้จริง

Hoshihana Village คำว่า “Hoshi” ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า “ดวงดาว” และ “Hana” แปลว่า “ดอกไม้” ที่นี่มักจะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและเกาหลีซะส่วนใหญ่ และน้อยครั้งที่จะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยมาเข้าพัก บ้านพักแต่ละหลังมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป เช่น Suika Cottage, Ichikawa Cottage และ Clay Cottage เป็นต้น ซึ่งมีทั้งหมด 9 หลังเท่านั้น หากสนใจเข้าพักจะต้องติดต่อเข้าไปที่เว็บไซต์ของทางรีสอร์ทโดยตรง เราสามารถเลือก Cottage แต่ละหลังได้ด้วยตนเอง เพราะขนาดของที่พักแต่ละหลังมีขนาดและพื้นที่ใช้สอยต่างกันไป บางหลังมีห้องครัวอยู่ในตัว แต่บางหลังอาจจะต้องใช้พื้นที่ส่วนรวมร่วมกัน โดยมีพื้นที่ครัวและอุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็นครบทุกอย่างเตรียมไว้ให้แขกที่เข้าพักสามารถทำอาหารรับประทานเองได้ แต่จะต้องเตรียมวัตถุดิบมาเอง ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากตลาดชุมชน คุณสามารถออกไปหาซื้อวัตถุดิบมาปรุงอาหารเอง ก็จะได้บรรยากาศไปอีกแบบ หรือถ้าอยากมาพักผ่อนอย่างเดียว ไม่อยากทำอะไร ที่นี่มีอาหารเช้า และ เครื่องดื่ม ที่คุณสามารถสั่งมาทานได้จนถึงมื้อเย็น

ส่วนใครที่ชอบออกกำลังกาย ที่นี่มีสระว่ายน้ำที่เป็นสระน้ำเกลืออยู่บริเวณสวนของที่พัก หรือถ้าคุณอยากจะไปสำรวจบริเวณใกล้ ๆ รีสอร์ท ที่นี่มีจักรยานให้คุณออกไปปั่นชมบรรยากาศรอบ ๆ พื้นที่ดูวิถีชุมชนแถวนั้นได้ ถ้าอยากช้อปปิ้ง ที่นี่มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นงานทำมือ เช่น กระเป๋าผ้า งานทำมือต่าง ๆ และของใช้ เช่น สบู่ แชมพู ที่เป็นแบบออร์แกนิกทั้งหมด ส่วนใครที่ชอบการนวด ที่นี่มีบริการนวดทั้งแบบไทย นวดน้ำมัน หรือนวดสมุนไพร เป็นต้น มีบริการซาวน่า มีพื้นที่สำหรับเล่นโยคะ ส่วนการคิดค่าบริการต่าง ๆ สามารถติดต่อดูรายละเอียดจากรีสอร์ทโดยตรงได้เลย จะเห็นว่าที่นี่มีบริการและกิจกรรมหลากหลาย โดยที่คุณสามารถเลือกใช้เวลาในการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

ความน่ารักยังไม่หมด เพราะที่นี่จะมีน้องแมวหลาย ๆ ตัวคอยออกมาต้อนรับแขกที่มาพักเสมอ จนถึงกับต้องมีป้ายบอกแขกที่เข้ามาบริเวณรีสอร์ทว่าให้ “ขับรถช้า ๆ ระวังแมว” สำหรับทาสแมว รับรองว่าคุณจะต้องหลงรักบรรดาน้องแมวขี้อ้อนมากแน่ ๆ นอกจากบรรยากาศของที่นี่จะมีความสวยงาม เงียบสงบตามธรรมชาติแล้ว การบริการของที่นี่เน้นการให้ความเป็นส่วนตัวของแขกที่เข้าพักเป็นอย่างมาก จะไม่มีพนักงานบริการเข้ามาในบริเวณที่พักของคุณ จะมีเพียงโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กไว้สำหรับติดต่อพนักงานเมื่อจำเป็นเท่านั้น เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้ความเป็นส่วนตัวและมีความผ่อนคลายอย่างแท้จริง และที่สำคัญการที่คุณมาพักกับ Hoshihana Village คุณยังมีส่วนร่วมได้สนับสนุนเด็ก ๆ ของบ้านร่มไทรโดยตรงอีกด้วย

อย่างที่ได้เกริ่นไว้ข้างต้นว่านักท่องเที่ยวคนไทยน้อยคนนักจะรู้จักกับที่นี่ แม้ว่าหลายคนจะเคยมาเที่ยวเชียงใหม่หลายครั้งหลายครา แต่อาจจะยังไม่รู้จักที่นี่ ที่ยังรอให้นักท่องเที่ยวคนไทยมาพักผ่อนกับสถานที่สวยงามและได้ร่วมแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้กับเด็ก ๆ เชื่อว่าทุกคนที่ได้มาสัมผัสจะได้ประสบการณ์ที่ดี ได้ทั้งความสุขและความอิ่มเอมใจกลับไปแน่นอน

ไหว้พระ ขอพร นอนพักที่ลำพูน 1 คืน ทำให้อายุยืนอีก 1 ปี

ถ้าได้มานอนพักที่เมืองลำพูน 1 คืน จะทำให้เราอายุยืนขึ้นอีก 1 ปี แล้วมีเหตุผลอะไรหนอ ที่จะทำให้คำกล่าวนี้เป็นความจริง ขอเกริ่นก่อนว่าเมืองลำพูนนั้นเป็นเมืองที่เล็กที่สุดของภาคเหนือ ขนาดพื้นที่จังหวัดประมาณ 4,506 ตร.กม. เท่านั้น ลำพูนจึงเปรียบเสมือนเมืองรองที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาก่อน จนกระทั่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้สนับสนุนให้มีการเที่ยวเมืองรองในประเทศไทยมากขึ้น ลำพูนชูจุดเด่นที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม วิถีชีวิตแบบ Slow Life ของคนลำพูน ทำให้คนอยากมาท่องเที่ยวและรู้จักเมืองลำพูนมากขึ้น

ลำพูน หรือ นครหริภุญไชย เมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเก่าแก่ที่สุดของดินแดนล้านนา

จังหวัดลำพูน เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นมาราวปี พ.ศ. 1200 โดยฤาษีวาสุเทพ และได้อัญเชิญพระนางจามเทวีซึ่งเป็นพระธิดาแห่งเมืองละโว้มาปกครองนครหริภุญไชยเป็นพระองค์แรก และได้มีเจ้าผู้ครองนครหริภุญไชยปกครองสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2475 มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จึงได้เปลี่ยนมาเป็นจังหวัดลำพูนจนถึงปัจจุบัน ลำพูนจึงมีโบราณสถาน ที่สำคัญเก่าแก่หลายแห่ง ซึ่งยืนยันถึงหลักฐานทางประวัติศาสตร์โบราณคดี และอธิบายอดีตความเป็นมาของเมืองลำพูนได้เป็นอย่างดี โดยขอนำเสนอสถานที่สำคัญที่ใครมาเที่ยวลำพูนแล้ว ท่านจะต้องแวะมาสักการะและขอพรสักครั้งหนึ่ง

วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร หรือ “วัดหลวง” ตามที่ชาวลำพูน ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลำพูนมายาวนาน และยังเป็นหนึ่งใน “จอมเจดีย์แห่งสยาม” ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน มีถนนล้อมรอบ 4 ทิศ มีองค์พระธาตุซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปี ระกา ภายในพระบรมธาตุหริภุญไชยบรรจุพระเกศบรมธาตุ บรรจุในโกศทองคำ ประดิษฐานในพระเจดีย์ และทุก ๆ ปี จะมีประเพณีสรงน้ำพระธาตุหริภุญไชย หรือประเพณี “แปดเป็ง” ที่หมายถึงคืนวันเพ็ญในเดือนแปด นับตามปฏิทินจันทรคติแบบล้านนา ซึ่งตรงกับเดือนพฤษภาคมของทุกปี เป็นพิธีที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ถึง 7 วัน 7 คืน ผู้คนที่มีศรัทธาทั้งคนท้องถิ่นและจังหวัดใกล้เคียงต่างหลั่งไหลมาที่นี่เพื่อร่วมงานประเพณี ส่วนความสวยงามขององค์พระธาตุ ฯ นั้น คงไม่สามารถบรรยายออกมาได้ทั้งหมดว่างดงาม วิจิตรตระการตามากเพียงใด ทุกท่านจะต้องมาสัมผัสด้วยตัวของท่านเอง

อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี สถานที่แห่งอนุสรณ์แด่พระนางจามเทวี องค์ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย ในประวัติของพระนางจามเทวี บางตอนกล่าวไว้ว่า พระนางจามเทวีได้นำขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ ของละโว้เข้ามาเผยแพร่และทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง ในยุคนั้นพสกนิกรต่างมีใจศรัทธาช่วยกันสร้างวัดขึ้นมาถึง 2,000 แห่ง นครหริภุญไชยนั้นจึงมีความเจริญทางพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงประมาณต้นเดือนธันวาคมของทุกปี ทางจังหวัดจะจัดงานเพื่อสักการะพระนางจามเทวี โดยจัดเป็นขบวนแห่ทางประวัติศาสตร์ มีขบวนเครื่องราชสักการะแบบล้านนาอย่างสวยงาม อีกทั้งยังเป็นช่วงต้นฤดูหนาว อากาศที่นี่จะเย็นลงซึ่งเหมาะแก่การมาท่องเที่ยวและยังได้ชมขบวนแห่ที่สวยงามอีกด้วย

วัดจามเทวี หรืออีกชื่อคือ วัดกู่กุด อีกหนึ่งวัดที่มีความเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ และโบราณคดี เชื่อว่าพระราชโอรสของพระนางจามเทวี โปรดให้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อถวายพระเพลิง ภายในวัดมีเจดีย์เหลี่ยมยอดหุ้มด้วยทอง เรียกว่าสุวรรณจังโกฏิ หรือ พระเจดีย์จามเทวี สร้างตามแบบพุทธคยาในประเทศอินเดีย ภายในบรรจุอัฐิของพระนางจามพระเทวี แต่ต่อมายอดพระเจดีย์ได้หักและหายไป ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ชาวบ้านจึงเรียกว่า กู่กุดพระเจดีย์ ภายในวัดจามเทวี ยังมีเจดีย์แปดเหลี่ยม ซึ่งมีลักษณะเป็นรูปแปดเหลี่ยมซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไปอย่างสวยงาม ที่นี่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญมาก ๆ อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดลำพูนและของประเทศไทย

กู่ช้าง กู่ม้า เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนลำพูนให้ความเคารพนับถือมากอีกแห่งหนึ่ง เพราะเป็นสุสานของช้างศึก และม้าศึก คู่บารมีของพระนางจามเทวี โดยเฉพาะ กู่ช้าง สร้างขึ้นเพื่อบรรจุซากพระยาช้างที่เรียกว่า “ปู่ก่ำงาเขียว” หมายถึงช้างสีคล้ำ งาสีเขียว ปู่ก่ำงาเขียวนั้นยามเมื่อออกศึกสงครามตามตำนานเล่าว่าแค่ช้างหันหน้าไปทางศัตรู ก็ทำให้ศัตรูอ่อนแรงลงได้ ด้วยเหตุผลที่ปู่ก่ำงาเขียวเป็นช้างที่มีอิทธิฤทธิ์วิเศษ พระนางจามเทวีจึงโปรดให้สร้างเจดีย์ทรงสูงเพื่อครอบไว้ให้ปลายงาช้างชี้ขึ้นฟ้า จากฐานเจดีย์จึงเป็นฐานกลม ก่อด้วยอิฐสูงประมาณ 30 เมตร หากใครต้องการสมหวังในเรื่องใด ก็มักจะมาขอพรกันที่นี่ โดยในสมัยก่อนนั้น มีเคล็ดลับว่า ให้ผู้มาขอเก็บหินหรือก้อนอิฐเล็ก ๆ บริเวณฐานกู่ช้างเพื่อนำติดตัวไป และหากสมหวังได้ดังใจตามที่ขอพรแล้ว จะต้องนำหินนั้นกลับมาคืนไว้ตามเดิม หากใครไม่นำมาคืนก็อาจจะเกิดโชคร้ายไปตลอด ส่วนใหญ่แล้วชาวลำพูนมักจะให้ลูกหลานที่กำลังจะเดินทางไปสอบ เช่น สอบเข้ามหาวิทยาลัย หรือสมัครงาน หรือต้องเดินทางทำภาระกิจสำคัญ มาขอพรที่นี่กันอยู่เสมอ ส่วนกู่ม้า ตั้งอยู่ด้านหลังกู่ช้าง เชื่อว่าเป็นที่บรรจุซากม้าทรงของพระราชโอรสของพระนางจามเทวี เป็นที่ที่ชาวลำพูนให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมากเช่นกัน

สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของเมืองลำพูนนั้น ยังมีอยู่อีกหลายแห่ง ที่มีความเก่าแก่และมีความสำคัญไม่แพ้กัน ลำพูนยังมีวิถีชีวิตของชุมชนที่มีความเป็นอยู่เรียบง่าย เมืองยังมีความเงียบสงบ ผู้คนน่ารัก อัธยาศัยดี ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเห็นแต่รอยยิ้ม และมิตรไมตรีของผู้คนที่นี่ และนี่คงเป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่านอนพักที่ลำพูน เพียง 1 คืน จะทำให้อายุยืนอีก 1 ปี เปรียบเทียบแล้วน่าจะหมายถึงการเราได้มาท่องเที่ยวในเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีศิลปะ วัฒนธรรมที่สวยงาม และได้ใช้เวลาดื่มด่ำกับความงามทั้งหมดนี้ ก็จะส่งผลให้จิตใจเราได้เติมเต็ม อิ่มเอมใจ พูดง่าย ๆ ว่าเกิดเป็นความสุขจากข้างใน และเมื่อมีความสุขจึงทำให้เรามีสุขภาพจิตดี อายุยืนขึ้นนั่นเอง

จูงมือคู่รักมาฮันนีมูน กับ 5 โรงแรมติดแม่น้ำปิง โรแมนติกจนอยากขอแต่งอีกรอบ

สำหรับคู่รักที่เพิ่งแต่งงานหรือคู่ฮันนีมูนใหม่ ๆ อยากจูงมือกันไปเที่ยวและมองหาที่พักสุดโรแมนติก วิวสวย ๆ บรรยากาศดี ๆ ที่เหมาะกับการสวีทสุด ๆ คุณจะพลาดเชียงใหม่ไม่ได้เลย เพราะเสน่ห์ของที่นี่ไม่ใช่แค่ภูเขาและสายหมอก แต่มีแม่น้ำสายหลักอย่างแม่น้ำปิง ที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ท่ามกลางสองฝั่งที่มีวิถีชีวิตชุมชนดั้งเดิม เชียงใหม่จึงมีที่พักสไตล์รีสอร์ทที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม ดึงดูดนักท่องเที่ยว ผุดขึ้นริมฝั่งแม่น้ำปิง คู่รักที่อยากมาฮันนีมูนที่เชียงใหม่ไม่ควรพลาดกับที่พักที่จะต้องทำให้คุณมีความสุขสุด ๆ และประทับใจจนอยากจะขอแฟนแต่งงานอีกรอบ

โรงแรมสวยอลังการ บรรยากาศโรแมนติก ติดริมแม่น้ำปิง คู่รักอยากฮันนีมูน ต้องมา

1.โรงแรม ปิงนครา บูทิคโฮเทลแอนด์สปา มีความสวยสไตล์โคโลเนียลที่เป็นตึกสีขาวโดดเด่นติดริมแม่น้ำปิง ด้วยคำนิยามของโรงแรมคือ การเดินทางย้อนกลับสู่ความงดงามแห่งอดีต ที่เก๋ไปกว่านั้น โรงแรมยังใช้รถเบนซ์รุ่นเก่าและคลาสสิคมาก ๆ ให้ฟีลลิ่งกับคู่รักที่มาพักได้บรรยากาศย้อนยุคจริง ๆ

ทำเลที่ตั้ง : 135/9 ถ.เจริญประเทศ ต.ช้างคลาน อ.เมือง เชียงใหม่

2.โรงแรม รติล้านนา ริเวอร์ไซด์ สปา รีสอร์ท ที่พักสวยอลังการ ติดแม่น้ำปิงที่มีความล้านนามาก ๆ แสดงเอกลักษณ์ความเป็นเชียงใหม่แทบทุกมุม คู่รักที่อยากมาฮันนีมูน กับบรรยากาศแบบเชียงใหม่แต๊ ๆ จะต้องชอบมาก โรงแรมมีห้องอาหารที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำปิง ให้ชมวิวกันชัด ๆ และช่วงเย็นยังมีดนตรีให้ฟังเคล้าคลอไปด้วย แถมตอนเช้า ๆ จะมีพระที่มาบิณฑบาตทางเรือ ผ่านทางโรงแรม ที่นี่จึงมีมุมสำหรับให้แขกมาร่วมตักบาตรได้ด้วย เป็นโมเมนต์ที่หาดูได้ยาก หากจะพาคู่รักของคุณมาตักบาตรริมแม่น้ำตอนเช้าด้วยกัน ก็เก๋ไม่ซ้ำใครเลยทีเดียว

ทำเลที่ตั้ง : 33 ถ.ช้างคลาน ต.ป่าแดด อ.เมือง เชียงใหม่

3.โฮเทล เดส อาร์ติสต์ ปิง ซิลลูเอต เชียงใหม่ โรงแรมชื่อเก๋ไก๋แห่งนี้มีที่มาไม่ธรรมดา ในอดีตย่านทำเลที่ตั้งของโรงแรมแห่งนี้เป็นโกดังเก่า เป็นแหล่งค้าขายสำคัญของเชียงใหม่ มีพ่อค้าทั้งไทยและจีน ติดต่อธุรกิจกันย่านนี้อย่างคึกคัก โรงแรมจึงออกแบบด้วยโทนสีขาว-ดำ ซึ่งเชื่อมโยงกับชื่อของโรงแรม “ปิง ซิลลูเอท” หรือ “Ping Silhouette” ในยามพระอาทิตย์ตกก็จะมีแสงและเงามืดทอดผ่านแม่น้ำปิงมายังตัวโรงแรม สถาปัตยกรรมแบบจีนประยุกต์ ก็สอดคล้องกับโกดังเก่าในอดีต แถมตัวอาคารก็สูงไล่เลี่ยกับบ้านเรือนและสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ยิ่งทำให้ดูกลมกลืนกับชุมชน คู่รักที่อยากสัมผัสกับที่พักติดวิวแม่น้ำปิงที่มีอดีตสวยงามเช่นนี้ รีบจูงมือกันมาพักผ่อนให้ไว

ทำเลที่ตั้ง : 181 ถ.เจริญราษฎร์ ต.ช้างม่อย อ.เมือง เชียงใหม่

4.ศาลา ล้านนา เชียงใหม่ จากเดิมที่ตั้งใจจะเป็นเพียงบ้านพักตากอากาศริมแม่น้ำ กลับกลายมาเป็นร้านอาหารริมน้ำและโรงแรมขนาดเล็ก สร้างอย่างกลมกลืนไปกับชุมชน บรรยากาศของภายในโรงแรมมีความสงบ สบาย รู้สึกผ่อนคลายทันทีที่มาถึง

ทำเลที่ตั้ง : 49 ถ.เจริญราษฎร์ ต.ช้างม่อย อ. เมือง เชียงใหม่

5.โรงแรม ลิตเติ้ล เชลเตอร์ โรงแรมน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน ที่พักดีไซน์เก๋ การันตีด้วยรางวัลด้าน Interior Design จากต่างประเทศ และในระดับนานาชาติจากการออกแบบแนวคิด Contemporary Lanna ดึงดูดคู่รักหรือนักท่องเที่ยว สายงานอาร์ตและชอบงานดีไซน์ให้มาเยือน แถมบรรยากาศที่ติดฝั่งน้ำปิง ยังมีต้นไม้ใหญ่เล็กคงไว้เช่นเดิม มีวิวทิวทัศน์ที่สวย บรรยากาศโรแมนติกที่ และมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร หากมีแฟนชอบถ่ายรูป มีมุมสวยให้คุณเลือกกดชัตเตอร์เยอะมาก อาหาร เครื่องดื่ม กาแฟที่นี่ยังอร่อย และแหวกแนวไม่ซ้ำใคร รับรองว่าได้ฟีลลิ่งกู๊ดจนแทบไม่อยากออกไปไหนเลยทีเดียว

ทำเลที่ตั้ง : 208/25 อ.เมือง เชียงใหม่

หัวใจของการฮันนีมูนอาจจะหมายถึงการได้อยู่กับคู่รัก แค่ใช้เวลาด้วยกันแบบมีคุณภาพ เรียบง่ายและมีความสุขที่สุด การใช้เวลาแค่ได้พักผ่อนในที่พักสวย ๆ ดื่มด่ำบรรยากาศดี ๆ ริมแม่น้ำ ทุกที่ที่เราคัดสรรมาให้อย่างดีแล้ว เชื่อว่าคู่รักทุกคู่ต้องประทับใจและอยากกลับมาเที่ยวเชียงใหม่กันบ่อย ๆ อีกแน่นอน

เที่ยวแบบชิล ๆ ที่เชียงดาว ไปกี่ครั้งก็ยังหลงรัก

ถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยวที่รักป่า รักเขา คุณจะต้องหลงรักเชียงดาวอย่างแน่นอน อำเภอเชียงดาวเป็นหนึ่งในอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อาจจะเป็นเพราะเสน่ห์ของธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่ามองไปทางไหนก็มองเห็นวิวภูเขาโอบล้อมเมือง เสน่ห์ของผู้คนที่มีอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส แลดูเป็นมิตรและอบอุ่นสำหรับคนต่างถิ่นที่ได้มาเยือน

เชียงดาว และมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติที่น่าหลงใหล

อำเภอเชียงดาวห่างจากตัวอำเภอเมืองเชียงใหม่ประมาณ 72 กิโลเมตร หากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งถือว่าใช้เวลาไม่นานมากนัก เราก็สามารถไปสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติและความสงบนอกตัวเมืองกันได้แล้ว ที่นี่มีภูเขาที่เสมือนเป็นจุดแลนด์มาร์ก สามารถมองเห็นได้เด่นชัดมาก คือ “ดอยหลวงเชียงดาว” ภูเขาสูงใหญ่ ตั้งเด่นเป็นสง่า ให้ผู้มาเยือนต่างตะลึงกับขนาดและความสวยงาม

ซึ่งคำว่า “ดอย” แปลว่า “ภูเขา” และ “หลวง” ในที่นี้แปลว่า “ใหญ่” นั่นเอง ถือเป็นมนต์เสน่ห์ที่น่าหลงใหลของดอยหลวงเชียงดาวที่สร้างความน่าประทับใจแก่นักท่องเที่ยวที่มาพบเห็นเสมอ หากใครที่อยากชื่นชมความงามของดอยหลวงเชียงดาวแบบสบาย ๆ ปัจจุบันมีที่พัก รีสอร์ท สวยงามหลายแห่ง รอต้อนรับนักท่องเที่ยวมาจับจอง พักผ่อนแบบสบาย ๆ เพื่อชื่นชมความงามของดอยหลวงเชียงดาวกันได้อย่างเต็มอิ่ม บางแห่งนอกจากมีที่พักแล้วยังมีบริการหมูกระทะ และปิ้งย่าง เป็นเซ็ต ให้นั่งทานที่ระเบียงพร้อมชมวิวดอยหลวงแบบฟิน ๆ กันอีกด้วย เรียกว่ามาแล้วได้ทั้งบรรยากาศ ทั้งอิ่มท้องจุก ๆ กันไปเลย แต่ก่อนที่จะไปฟินกับหมูกระทะ คนที่อยากผ่อนคลายด้วยการแช่น้ำร้อนแบบออนเซ็น จะต้องไม่พลาด เพราะที่เชียงดาวมี “บ่อน้ำร้อนบ้านยางปู่โต๊ะ” มีบริการบ่อน้ำร้อนให้แช่แบบฟรี และบ่อน้ำร้อนส่วนตัว ที่มีค่าบริการ คิดเป็นชั่วโมงละ 50 บาทเท่านั้น แต่ได้แช่น้ำร้อนในบ่อส่วนตัวท่ามกลางธรรมชาติกันแบบ ชิล ๆ คุ้มค่ากับการมาพักผ่อนหย่อนใจอย่างแท้จริง

หากมาเยือนเชียงดาวแล้ว สิ่งที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะต้องนึกถึงเสมอ นั่นคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่น วัด หรือโบราณสถานเก่าแก่ของที่นี่ เพื่อไปกราบขอพรให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองหรือครอบครัว วัดที่ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และมีประวัติยาวนานประจำอำเภอเชียงดาวและยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวในปัจจุบัน นั่นก็คือ “วัดถ้ำเชียงดาว”

วัดถ้ำเชียงดาว ตำนานความเชื่อ ความศรัทธา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์

วัดถ้ำเชียงดาว เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของถ้ำเชียงดาว ในอดีตเคยเป็นสถานที่สำหรับปฏิบัติธรรมของพระธุดงค์และฤาษี ต่อมามีการสร้างโบราณสถาน เช่น เจดีย์ และพระพุทธรูปทันใจ หรือ หลวงพ่อทันใจ ที่เชื่อว่าหากได้มาอธิษฐานขอพรหลวงพ่อทันใจแล้วมักจะได้รับความสมหวังดังใจปรารถนา รวมถึงตำนานเล่าขานถึงความศักดิ์สิทธิ์ในอดีต ทำให้วัดถ้ำเชียงดาวกลายเป็นสถานที่ที่ผู้คนศรัทธา และเคารพนับถือมากราบไหว้ขอพรเป็นจำนวนมาก จากนั้นจึงมีการบูรณะวัดถ้ำเชียงดาวเรื่อยมาจนมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในปัจจุบัน ในส่วนด้านในของถ้ำนั้นยังมีหินงอก หินย้อยที่เกิดตามธรรมชาติ เป็นรูปร่างต่าง ๆ อย่างสวยงาม และยังมีพระพุทธรูปอยู่ภายในถ้ำด้วย สายบุญไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

หากท่านใดยังไม่เคยมาเที่ยวอำเภอเชียงดาว หรือเคยมาแล้วและยังอยากมาย้ำความประทับใจกับธรรมชาติที่ยังคงมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลของเชียงดาว ขอแค่เตรียมตัวและวางแผนการเดินทางให้พร้อม แนะนำว่าควรมาพักอย่างน้อย 1 คืน เพื่อจะได้มีเวลาเที่ยวแบบ ชิล ๆ ไม่ต้องเร่งรีบมากนัก แล้วคุณอาจจะหลงรักเชียงดาวจนอยากจะกลับมาเที่ยวอีกครั้งแน่นอน

แนะนำฟาร์มน่าเที่ยว อบอุ่นสไตล์บ้านไร่

การท่องเที่ยวในประเทศไทย นอกจากจะคิดถึงการไปทะเล ปีนเขา หรือเข้าพักที่รีสอร์ทในป่าสักแห่ง ไปดูน้ำตกสวย ๆ แล้ว ฟาร์มก็นับเป็นอีกหนึ่งแห่งที่เรียกได้ว่าน่าสนใจมาก ๆ เหมาะแก่การพาครอบครัวไปเที่ยวและพักผ่อน ยิ่งสำหรับเด็ก ๆ แล้ว ฟาร์มก็คือห้องเรียนกลางแจ้งแห่งใหม่ที่จะเปิดโลกให้กับเจ้าตัวน้อย หรือพวกผู้ใหญ่เองก็ได้โอกาสพักใจ ปล่อยวางทุกอย่างลงบนหญ้าฟางเพื่อคลายเครียดสำหรับชีวิตที่แน่นขนัดจากที่เคยเจอมา

เที่ยวฟาร์มอย่างมีฟาร์มสุข

  • ไร่ปลูกรัก (จ.ราชบุรี)

พบกับความรักไม่เล็กในทุ่งกว้างของไร่ปลูกรักที่จะเปิดโอกาสให้นักพนันของ FUN88 ทุกคนได้รู้จักกับความรักในการปลูก เพราะที่นี่นอกจากจะมีวิวที่งดงามแล้ว ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ได้ลองทำกันมากมาย เช่น สอนปลูกผัก สอนทำไข่เค็ม สอนทำปุ๋ย สอนทำไอศกรีม ที่สำคัญ ผักทุกชนิดของที่นี่เขาเป็นผักออร์แกนิคที่ไม่ปนเปื้อนสารพิษ ที่นอกจากจะสนุกและได้ความรู้ มาที่นี่ยังทำให้ได้ทานของดี ๆ บำรุงร่างกายกันอีกด้วย

  • CORO Field  (จ.ราชบุรี)

ชื่อฟาร์มเก๋ ๆ ที่ล้อกับชื่อคลอโรฟิลล์สารสีเขียวที่อยู่ในใบพืช ทำให้เอกลักษณ์ของที่นี่ชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะมีความเขียวชอุ่มอุดมสมบูรณ์ มองดูแล้วเย็นตาสบายใจ ยิ่งมาคู่กับเมล่อนญี่ปุ่นหวานหอมเย็นฉ่ำ ทำให้ไม่เสียชื่อที่เป็นฟาร์มเมล่อนญี่ปุ่นแห่งแรกในประเทศไทยจริง ๆ แถมนอกจากจะมีต้นไม้สวย ๆ ไว้ให้ถ่ายรูปเล่นได้แล้ว ยังมีร้านอาหารรสเด็ดที่เรียกได้ว่าห้ามพลาดซ่อนตัวอยู่ในฟาร์มแห่งนี้ให้ทุกคนเลือกทานกันได้ตามใจชอบอีกด้วย

  • ฟาร์มตาเล็ก (จ.นครนายก)

นับเป็นสถานที่แห่งการทำปศุสัตว์และพืชผักที่แท้จริง เพราะที่ฟาร์มตาเล็กจะให้เราได้ไปเก็บไข่ไก่กันสด ๆ ถึงในเล้า ได้เรียนรู้ผูกพันไปกับชีวิตสไตล์ชาวไร่ที่อาศัยธรรมชาติแท้ ๆ ทั้งสายลมอ่อน ๆ กับไอแดดอุ่น ๆ ที่พัดโชยเข้ามา ทำให้การเรียนรู้ที่จะอยู่กับฟาร์มผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะและความสดใส

  • ไร่บุญรอด (จ.เชียงราย)

ไร่บุญรอดเป็นที่เลื่องชื่อของวิวสวรรค์ เพราะนอกจากจะได้เห็นความสวยงามของทุ่งเนินสีเขียวสดใส ลานดอกไม้ตระการตา หรือจะเป็นทะเลสาบกว้างใหญ่ ไร่ชา หรือจะไร่ผลไม้ ก็แล้วแต่เป็นทิวทัศน์ที่ควรได้ไปเยือนสักครั้ง ไม่รวมกับพวกสัตว์ป่าน้อยใหญ่ที่จะทำให้วันหยุดของเรามีสีสันเพิ่มขึ้นอีกเยอะทีเดียว

ความสนุกกลางแจ้งกับรอยยิ้มกลางแดด

              การไปเที่ยวสไตล์ฟาร์มมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่หาความใกล้เคียงยาก คือการทำกิจกรรมต่าง ๆ เพราะการได้เรียนรู้กิจกรรมผ่านทางการได้ลงมือทำ ได้สัมผัสกับความสดใหม่ของวัตถุดิบและใกล้ชิดกับธรรมชาติ ทำให้วันหยุดที่ผ่านไปมีความน่าจดจำมากขึ้น ได้เห็นไร่สีเขียวไกลสุดลูกหูลูกตา กับบรรดาเหล่าสัตว์น่ารักทั้งหลายแบบใกล้ ๆ ถ้าจะถ่ายรูปเก็บไว้ก็สวย หรือจะถ่ายรูปรวมเป็นแบบครอบครัวแล้ว ไม่ว่ามองเมื่อไหร่ก็จะสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความทรงจำดี ๆ แน่นอน

สานฝันที่ซานฟรานซิสโก ตำนานของสะพานโกลเดนเกต

ในวัยเด็กหากท่านใดชื่นชอบในการชมภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด ภาพของสะพานสีแดงทอดยาวที่พาดผ่านแม่น้ำที่กว้างใหญ่ย่อมเป็นภาพจำและฝันว่าหากมีโอกาสจะต้องไปชมสะพานนี้ให้เห็นกับตาตัวเองให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าสะพานนั้นคือ สะพานโกลเดนเกต (Golden Gate Bridge) สะพานแขวนที่เชื่อมระหว่างเมืองมาริน เคาน์ตี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย และอ่าวซาน
ฟรานซิสโก ด้วยการออกแบบให้ใช้งานได้จริง ทนทาน และสวยงามทำให้สะพานแห่งนี้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมแห่งหนึ่งของโลก หากต้องการสัมผัสสะพานแห่งนี้สามารถทำได้โดยขับรถ นั่งรถบัส แต่หากแนะนำให้ถ่ายรูปออกมาได้สวยงามสามารถข้ามไปยังเนินเขาอีกข้างหนึ่งของสะพานเพื่อถ่ายภาพย้อนกลับมาชมความยิ่งใหญ่อลังการของสะพานแห่งนี้ได้

ท่าเรือประมงเก่าแก่ของซานฟรานซิสโก ที่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องชม ได้แก่ ฟิชเชอร์แมนวาร์ฟและท่าเรือ 39 (Fisherman’s Wharf and Pier 39) ซึ่งเป็นสถานที่เดินเล่นชิล ๆ และสามารถหาอาหารทะเลสด ๆ รับประทานได้ ที่สำคัญคือต้องลองชิมรสชาติของปู Dungenese Crab ซึ่งเป็นปูพระเอกของซานฟรานซิสโก เนื้อแน่นเต็มปากเต็มคำ ถัดจากนั้นเดินเล่นชมสวนสนุกและการแสดงต่าง ๆ พร้อมกับสัมผัสบรรยากาศการท่องเที่ยวของวัยรุ่นอเมริกาที่เห็นได้ตามซีรีย์วัยรุ่นอเมริกาแบบของจริง บนพื้นไม้กระดานของท่าเรือ 39 และเมื่อเดินฝ่าฝูงชนที่ชมการแสดงตามจุดต่าง ๆ หรือเลือกซื้อของที่ระลึกที่วางขายไปจนสุดท่าเรือ จะพบกับเจ้าสิงโตทะเลนอนอาบแดดส่งเสียงร้องกันสนุกสนาน เป็นภาพเพลินตาและสร้างสีสันให้กับท่าเรือนี้เป็นอย่างมาก

คุกเก่าแก่ในตำนานของสหรัฐอเมริกา ที่สักครั้งหนึ่งต้องมาชมด้วยตาตัวเองได้แก่ คุกบนเกาะอัลคาทราซ (Alcatraz Island) ซึ่งการเดินทางต้องข้ามเรือไปยังเกาะนี้ ปัจจุบันได้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อการท่องเที่ยวและศึกษาชีวิตของผู้ต้องขังในอดีต โดยพิพิธภัณฑ์ได้จัดเป็นระเบียบเรียบร้อย  ตั้งแต่ขั้นตอนแรกคือการล้างตัวผู้ต้องขังจนเข้าสู่ห้องขังของแต่ละคน รวมถึงมีการบรรยายในแต่ละจุดให้เห็นว่าสภาพการเป็นอยู่ ชุด อาหารของนักโทษเป็นอย่างไร และความยากของการคิดที่จะหนีไปจากคุกนี้ว่าลำบากขนาดไหน และเมื่อชมพิพิธภัณฑ์เสร็จอย่าลืมแวะซื้อของฝากเป็นที่ระลึกหรือหากท่านใดสนใจนอนพักค้างคืนที่เกาะแห่งนี้ก็มีบริการ

สุดท้ายกิจกรรมที่พลาดไม่ได้คือการนั่งรถรางคลาสสิคชมเมือง รถรางจะวิ่งอย่างช้า ๆ มีขึ้นลงเนินสูงต่ำบ้างบางครั้ง สามารถสลับสับเปลี่ยนกับเพื่อนเพื่อหามุมถ่ายรูปสวย ๆ ได้ เมื่อสิ้นสุดระยะก็จะพบกับแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้หากมีเวลาลองไปชิมไอศกรีมร้านสเวนเซ่นร้านแรกของโลก และห่างไปไม่ไกลนักชมถนนลอมบาร์ดถนนที่มีความขดเคี้ยวมากเพื่อถ่ายรูปอวดเพื่อน ๆ ในอินสตราแกรม

นครสวรรค์ ดินแดนมังกร เมืองสวรรค์ของอาหาร

หากเอ่ยชื่อจังหวัด “นครสวรรค์” หลายท่านต้องนึกถึง ต้นกำเนิดแม่น้ำเจ้าพระยา ประเพณีงานตรุษจีนที่ยิ่งใหญ่อลังการ ขนมขึ้นชื่ออย่างโมจินครสวรรค์ที่เป็นที่นิยมเป็นของฝากประจำจังหวัด หรือแม้กระทั่งลูกชิ้นปลาเม็ดเล็กที่เป็นที่จดจำของนักท่องเที่ยว หากแต่ว่านครสวรรค์ไม่ได้มีดีเพียงสิ่งที่กล่าวในข้างต้นหากนักท่องเที่ยวที่ขับรถจากกรุงเทพมหานครเพื่อมุ่งหน้ายังภาคเหนือลองหาเวลาแวะนอนพักกลางคืนสักคืนหนึ่ง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากความเมื่อยล้าจนทำให้เกิดอาการหลับใน จะพบว่าสวรรค์ของอาหารในยามค่ำคืนของนครสวรรค์หรือเมืองปากน้ำโพมีดีเช่นกัน

ในยามค่ำคืนหากมุ่งหน้ามาตามถนนริมเขื่อนของแม่น้ำเจ้าพระยาจะพบกับแสงไฟสว่างไสว ผู้คนขวักไขว่ บ้างเดิน บ้างใช้รถจักรยานยนต์ แต่ทุกคนล้วนมุ่งหน้าไปยังสิ่งที่เรียกว่าสตรีทฟู้ดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ที่เต็มไปด้วยบรรดาอาหารต่าง ๆ ทั้งคาวและหวานที่ขายกันมาต่อเนื่องยาวนาน บางร้านสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาหลายรุ่นแล้วซึ่งแน่นอนว่ารสชาติของอาหารจะค่อนข้างอยู่ตัวแล้ว นอกจากร้านในตำนานก็ยังมีร้านหน้าใหม่เข้ามาสู่วงการสตรีทฟู้ดของนครสวรรค์อย่างต่อเนื่องจนเป็นแถวเรียงยาวสุดลูกหูลูกตา เรียกได้ว่าหนึ่งสัปดาห์ก็ไม่สามารถที่จะกินได้ครบ

สำหรับคนชอบทานหอยทอด ร้านหอยทอดที่ตลาดริมน้ำแห่งนี้เรียกได้ว่าอร่อย ไม่แพง และมีชื่อเสียงมายาวนาน ร้านใหญ่สังเกตเห็นง่าย มีหอยให้เลือกปรุงทอดหลายประเภทที่สำคัญแป้งกรอบหอม น้ำจิ้มอร่อยเด็ด ส่วนอาหารอีกประเภทได้แก่ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา มีให้เลือกลิ้มลองหลายร้าน เนื่องจากนครสวรรค์เป็นเมืองปลาแม่น้ำและเทคนิคการนำปลากรายมาทำเป็นลูกชิ้นได้แบบไม่มีกลิ่นคาวก็เป็นเทคนิคเฉพาะ ทำให้ลูกชิ้นปลาและก๋วยเตี๋ยวเป็นที่นิยมสำหรับชาวเมืองและนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังนำลูกชิ้นปลากรายไปเป็นส่วนประกอบของก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟได้อีกด้วย

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบราดหน้า ตลาดริมน้ำแห่งนี้ก็มีร้านราดหน้าเจ้าเก่าที่มีสูตรลับเฉพาะให้ได้ลิ้มลองกัน  2 ร้าน ส่วนร้านอาหารตามสั่งอย่าลืมทานข้าวผัด และหมูยอทอด ถามคนเมืองนี้ก็รู้จักกันดีว่าร้านไหน นอกจากนี้ร้านอาหารประเภทก๋วยจั๊บรสชาติแบบดั้งเดิมก็มีให้ได้ลิ้มลองกัน นอกจากนี้ยังมีของกินเล่นประเภทหมูสะเต๊ะให้ได้ชิมตบท้ายจากมื้อหนักได้อีกด้วย

ปิดท้ายทริปสตรีทฟู้ดนครสวรรค์ด้วย ของหวานในตำนานได้แก่ บัวเกี๊ยะ เช็งทึง ที่เป็นขนมหวานของชาวจีนที่เป็นร้านที่ขายกันมาอย่างยาวนานของตลาดริมน้ำแห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีร้านโดนัททำสดร้านดังในตำนานอีกร้านหนึ่งจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูกที่แป้งหอมหวานอร่อยจนต้องซื้อติดมือไปเป็นของฝากได้อีกอย่างหนึ่ง ถึงตอนนี้ทุกคนอาจจะต้องเดินย่อยสักหน่อยก่อนกลับที่พัก แนะนำให้เดินย้อนกลับไปยังต้นถนนจะมีของขายหลากลายทั้งเสื้อผ้า งานฝีมือ ที่เปิดให้พ่อค้าแม่ค้าพื้นเมืองมาเปิดร้านกันมากมาย

ลอยล่องน้ำพุร้อนเหนือใต้สองเมืองสองภาค

ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งประเทศจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวเพื่อการแช่น้ำพุร้อน เพื่อผ่อนคลาย เพื่อรักษาโรค จนเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของชาติ และเป็นที่นิยมของคนต่างชาติด้วยเช่นกัน ไอซ์แลนด์ ชาติยุโรปมีการแช่น้ำพุร้อนเช่นกัน โดยน้ำพุร้อนของชาวไอซ์แลนด์ที่นิยมได้แก่ Blue Lagoon สถานที่แช่น้ำร้อนเผื่อคลายความหนาวเย็นที่ขึ้นชื่อของประเทศนี้ที่ไม่ได้มีแค่การไปล่าแสงเหนือเท่านั้น

ย้อนกลับมาประเทศไทยแหล่งแช่น้ำพุร้อนมีหลายสถานที่หลายจังหวัดในหลายภูมิภาค เช่น ภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ภาคตะวันตกจังหวัดตาก ภาคกลางจังหวัด กำแพงเพชร อุทัยธานี ราชบุรี ภาคใต้จังหวัดระนอง กระบี่ และสุราษฎร์ธานี เป็นต้น แต่ในการแนะนำครั้งนี้คงแนะนำน้ำพุร้อนทั้งสิบแห่งได้ไม่หมดในคราวเดียว จึงขอเลือกน้ำพุร้อนที่แตกต่างกัน ได้แก่ น้ำพุร้อนในภาคเหนือ คือ น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน จ.ลำปาง และน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม จ.กระบี่ เพื่อลอยล่องไปแช่น้ำพุร้อนทั้งสองภาค

 ลำปางไม่ได้เป็นแค่เมืองรถม้า หากยังมีน้ำพุร้อนที่เป็นเสมือนสถานที่ผ่อนคลายให้กับนักท่องเที่ยวหรือคนในชุมชนที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานหนัก การได้มาแช่ตัวทั้งบ่อน้ำพุร้อนส่วนตัวหรือบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งที่ให้เลือกรูปแบบการใช้บริการหลากหลาย ทำให้น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน ภายในอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง ซึ่งนอกจากจะมีบ่อน้ำพุร้อนที่สร้างขึ้นแล้ว ยังมีบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติที่สามารถทำกิจกรรมนำไข่ประเภทต่าง ๆ มาต้มเพื่อบริโภคได้ อีกกิจกรรมหนึ่งที่ไม่ควรพลาดก่อนการแช่น้ำพุร้อน ได้แก่การเดินป่าศึกษาธรรมชาติภายในอุทยาน หรือหากท่านใดนอนพักภายในอุทยาน หรือกางเต็นท์พักเองสมควรอย่างยิ่งที่จะตื่นขึ้นมาแช่น้ำร้อนท่ามกลางไอหมอก เพื่อรับพลังให้กับร่างกาย

กระบี่ไม่ได้มีดีแค่สระมรกต หากยังมีน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม ที่เป็นน้ำพุร้อนที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับน้ำทะเล ซึ่งนับว่าหาได้ยากมากในโลกนี้ นอกจากจะมีน้ำพุร้อนเค็มเป็นบ่อเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวผ่อนคลายแล้ว ยังมีน้ำพุร้อนที่ไหลเป็นธารน้ำตกร้อนให้ได้แช่ตัวกันอีกบรรยากาศหนึ่งด้วย น้ำพุร้อนที่นี่ใส่ใจสุขภาพด้วยการแบ่งเป็น 3 บ่อน้ำพุร้อนให้เหมาะสมกับตามแต่ละช่วงวัย ดังนั้นสามารถเดินทางมาแช่น้ำพุร้อนที่นี่กันได้ทั้งครอบครัว และเป็นการเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวของประเทศไทยอีกด้วย

สุดท้ายเคล็ดลับการแช่น้ำพุร้อนให้ถูกหลัก ต้องสำรวจร่างกายตนเองด้วยว่ามีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูงหรือไม่ เพื่อป้องกันอันตรายและอุบัติเหตุจากการแช่น้ำพุร้อน และควรอาบน้ำก่อนลงแช่ และแช่ขาทั้ง 2 ข้างก่อนอย่างไม่รีบร้อนเพื่อปรับอุณหภูมิ ไม่ควรแช่นานเกินไป และหากมีอาการผิดปกติเช่นหน้ามืด ใจสั่น ให้รีบขึ้นจากบ่อทันที และแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอความช่วยเหลือในเบื้องต้น

วิ่งท่องเที่ยวเก็บระยะทางตามเส้นทางของMRT

ปัจจุบันการวิ่งออกกำลังกายเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากกระแสของการรักสุขภาพ รวมไปถึงการวิ่งเป็นกีฬาที่ไม่ต้องมีอุปกรณ์สิ่งใดมากมาย เพียงมีรองเท้าคู่ใจที่ดีสักคู่และการมีใจที่ต้องการเอาชนะตัวเองไปในทุกย่างก้าว เท่านั้นก็เพียงพอต่อการออกกำลังกายประเภทนี้ ตอนนี้การเดินทางภายในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลสะดวกมากยิ่งขึ้น ทำให้การเดินทางไปยังสวนสาธารณะสวย ๆ บรรยากาศดี ได้ง่ายขึ้น และสวนสาธารณะที่มีนักวิ่งจำนวนมากทำให้สร้างแรงกระตุ้นต่อการออกกำลังกายต่อผู้ที่ชื่นชอบการวิ่งได้เป็นอย่างดี การท่องเที่ยวนี้จะแนะนำสวนสาธารณะที่เหมาะสำหรับการเดินทางของนักวิ่งผ่านเส้นทางของรถไฟฟ้าในบางเส้นทางกัน

อุทยานมกุฎรมยสราญ หรือสวนสาธารณะจังหวัดนนทบุรี อยู่ภายในบริเวณศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ สามารถทำกิจกรรมได้มากมาย เช่น การปั่นจักรยาน การเล่นตะกร้อ นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการเครื่องออกกำลังกายโดยรอบได้โดยไม่คิดค่าบริการ ส่วนการเดินทางสามารถใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงลงที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรีได้เลย

สวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ สามารถเดินทางด้วย รถไฟฟ้า MRT สถานีสวนจตุจักร เพียงเดินขึ้นมาก็สามารถออกวิ่งสู่สวนสาธารณะได้เลย สวนรถไฟเป็นอีกสวนสาธารณะที่มีความร่มรื่นและอากาศดีแม้จะอยู่ในตัวเมืองที่มีการจราจรแออัดก็ตาม การวิ่งตามทางไปเรื่อย ๆ จะเพลิดเพลินอย่างมากกับสีเขียวของต้นไม้ที่ยืนต้นมาหลายสิบปี นอกจากนี้หากท่านที่ไม่ชอบวิ่งสามารถใช้บริการอย่างอื่นได้อีกมากมาย เช่น ห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำ ห้องโยคะ เป็นต้น

สวนลุมพินี สถานที่วิ่งและออกกำลังกายยอดนิยมใจกลางเมืองกรุง สามารถเดินทางได้ด้วย รถไฟฟ้า MRT สถานีสีลม สวนสาธารณะแห่งนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่มีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ผู้ที่เดินทางมาใช้บริการมากมาย เช่น การปั่นจักรยานน้ำ พายเรือ เป็นต้น ภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ยังมีศูนย์สร้างสุขทุกวัยเพื่อให้คนทุกวัยร่วมกิจกรรม เช่น การเต้นลีลาศ ฟุตบอล เป็นต้น

สวนรมณีนาถ สวนสาธารณะที่แปลงจากเรือนจำเก่า ขนาดเล็กกะทัดรัดกลางเมือง แต่ก็คลาคล่ำด้วยผู้คนหลากหลายวัย การเดินทางมายังสวนสาธารณะแห่งนี้สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT สถานีสามยอด เดินเท้าเป็นการอบอุ่นร่างกายก่อนวิ่งเพียงนิดเดียว ก็จะถึงสวนสาธารณะแห่งนี้ หากผู้ใดได้มาวิ่งครั้งแรกจะพบกับความแปลกตาเมื่อเห็นบางส่วนของสวนสาธารณะยังคงจัดให้มีร่องรอยการเป็นคุกเก่าหลงเหลืออยู่ อาจจะแวะชมสถานที่ภายหลังจากวิ่งเสร็จแล้วเพื่อเรียนรู้ประวัติของสถานที่ก็ดีไม่น้อย

สุดท้ายการออกกำลังโดยการวิ่งนั้นดีต่อสุขภาพกาย สุขภาพใจและสุขภาพทางการเงินอีกด้วย เนื่องจากเมื่อร่างกายแข็งแรงก็จะลดค่ารักษาพยาบาลได้เยอะ อีกทั้งการลงทุนในอุปกรณ์การวิ่งก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากเกินไป และยิ่งได้เปิดเส้นทางใหม่ ๆ ในการวิ่งในสวนสาธารณะที่ต่าง ๆ ยิ่งเป็นการเปิดประสบการณ์การวิ่งและทำให้ไม่เบื่อหน่ายในสถานที่แบบเดิมได้

เที่ยวเมืองตราด สุดเขตแดนตะวันออก ท่องเที่ยวคุ้มค่า ควรค่าแก่การบอกต่อ

เมืองเล็กชายฝั่งตะวันออกสุดเขตแดนสยามที่มากด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ วิถีชีวิตที่เรียบง่ายไม่รีบร้อนวุ่นวาย เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเมืองเกาะครึ่งร้อย แน่นอนว่าจังหวัดตราดคือจุดหมายปลายทางหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวมืออาชีพหรือมือสมัครเล่นมักจะล็อคเป้าหมายไว้เป็นหนึ่งในรายชื่อแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ได้สักครั้งหนึ่ง ด้วยการเดินทางที่ไม่ไกลจากเมืองหลวง นับเวลาเพียงไม่เกิน 5 ชั่วโมงโดยประมาณ นั่นจึงทำให้จังหวัดตราดเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่คุณไม่ควรพลาดเก็บเกี่ยวความประทับใจในทริปวันหยุด

เกาะช้าง เกาะใหญ่ที่เมื่อได้ลองสัมผัสแล้วคุณจะตกหลุมรัก

หากจะบอกว่าเกาะช้างคือแหล่งท่องเที่ยวเบอร์หนึ่งที่สร้างชื่อให้จังหวัดตราดก็คงไม่ผิด ด้วยขนาดของเกาะที่ใหญ่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามทั้งหาดทรายสีขาวทอดตัวยาวตัดกับกระแสคลื่นเบา ๆ ของน้ำทะเลสีฟ้าคราม อีกทั้งสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ มีทั้งพื้นที่ป่า น้ำตก กระทั่งวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้าน ย่อมดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติมุ่งสู่จังหวัดตราดได้ปีละไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน และ VWIN ทราบข้อมูลมาว่าสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท การข้ามไปเกาะช้างก็ถือว่าสะดวกสบายมีให้เลือกทั้งเรือเฟอร์รีที่บรรทุกได้ทั้งคนและยานพาหนะ เรียกได้ว่าขับรถส่วนตัวตะลุยเกาะช้างกันได้ชิล ๆ หรือต้องการความรวดเร็วอย่างสปีดโบ๊ทก็มีให้เลือกใช้บริการ

บนเกาะช้างมีถนนหนทางการคมนาคมที่สะดวก แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ให้มากขึ้นสักหน่อย โดยเฉพาะท่านที่ไม่คุ้นชินกันเส้นทาง นักท่องเที่ยวส่วนมากนิยมจับจองที่พักกันที่หาดทรายขาว ด้วยมีพร้อมทั้งที่พักทุกระดับ ร้านอาหารมีให้เลือกมากมายหลากหลาย แหล่งอำนวยความสะดวก สถานบันเทิงครบครัน และความสวยงามของหาดทรายสีขาวยาวกว่า 6 กิโลเมตร เหมาะกับกิจกรรมบนชายหาดทุกรูปแบบ แต่หากต้องการความสงบสักหน่อยก็ยังมีหาดคลองพร้าวและหาดไก่แบ้ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีไม่แพ้กัน หรือบางท่านต้องการความสงบแบบวิถีชุมชน แนะนำให้มุ่งหน้าสู่อ่าวบางเบ้าและอ่าวสลักเพชร นอนโฮมสเตย์สัมผัสกลิ่นไอหมู่บ้านชาวประมงอย่างลึกซึ้ง

เมืองเกาะครึ่งร้อย อันดามันแห่งทะเลอ่าวไทย ความสวยบนความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ

แม้เกาะช้างจะเป็นเบอร์หนึ่งแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดตราด แต่ธรรมชาติก็ยังสรรค์สร้างความสวยงามไว้ให้นักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ได้อิ่มเอมกับความสวยงามไว้อีกมากมาย เกาะกูดคือหนึ่งในความสวยงามที่พรั่งพร้อมด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ ความเงียบสงบที่ล้อมรอบด้วยผืนน้ำทะเลสีฟ้า เหมาะแก่การพักผ่อนเพื่อเติมพลังให้กับคนทำงานอย่างแท้จริง เกาะกูดจึงได้รับฉายาว่าอันดามันแห่งทะเลตะวันออก

ด้วยความเป็นเมืองเกาะครึ่งร้อย ตราดจึงมีแหล่งท่องเที่ยวประเภทเกาะที่สวยงามให้นักท่องเที่ยวได้ใช้วันหยุดอย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะใครที่ชอบดำน้ำก็เรียกได้ว่าดำผุดดำว่ายกันได้ทั้งวัน และหลาย ๆ วัน ทั้งเกาะใหญ่ เกาะเล็กล้วนยังมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ มีความสวยงามของทะเลฝั่งอ่าวไทยที่ไม่แพ้อันดามันให้นักท่องเที่ยวได้ใช้วันหยุดอย่างคุ้มค่าไม่ว่าจะเป็นวันหยุดสั้น ๆ หรือวันหยุดยาวก็มีแต่คุ้มกับคุ้ม